(เพิ่มเติม) ศาล ปค.สั่ง"ประชา-ทายาทสมัคร"ชดใช้กว่า 587 ลบ.ปมรถดับเพลิง,"วัฒนา-อภิรักษ์"รอด

ข่าวการเมือง Wednesday April 30, 2014 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยาของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะทายาท ชดใช้เงินจำนวน 587.58 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ให้กับ กทม.เนื่องจากจงใจประมาทกรณีเร่งรีบดำเนินการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เมื่อปี 47

โดยศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของนายสมัคร และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.ที่เร่งรีบตั้งแต่ขั้นตอนพิจารณาโครงการและทำสัญญาโดยไม่ผ่านการตรวจร่างสัญญาจากอัยการสูงสุด มีลักษณะเร่งรีบให้ทันก่อนที่นายสมัครจะพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เป็นการจงใจประมาท จึงมีคำพิพากษาให้ทายาทของนายสมัครจ่ายเงินชชดใช้แก่ กทม.จำนวน 30% ของจำนวนเต็มตามโครงการกว่า 1,958 ล้านบาท

นอกจากนี้ศาลปกครองกลางยังมีคำพิพากษาอีกคดีที่ กทม.ฟ้องนายนายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย โดยพิพากษาให้นายประชาชดใช้เงินจำนวน 587.58 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 เช่นกัน

ส่วนกรณีของนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของ กทม.เมื่อวันที่ 24 พ.ย.53 ที่กำหนดให้นายวัฒนาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับ กทม.จากความเสียหายกรณีทำสัญญาซื้อขายรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เมื่อปี 47 โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้นายวัฒนาจะมีส่วนเกี่ยวข้องในบางขั้นตอนกับการทำสัญญาซื้อขายอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมื่อปี 47 โดยเฉพาะในส่วนสัญญาสินค้าต่างตอบแทนประเภทไก่ต้มสุกแช่แข็ง แต่ก็สืบเนื่องจากกรณีที่ ครม.มีมติเมื่อ 24 ส.ค.47 ให้พิจารณาผลักดันการส่งออกสินค้าประเภทไก่ต้มสุกแช่แข็ง เนื่องจากขณะนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ประสบปัญหาไข้หวัดนก กรณีที่อ้างว่านายวัฒนากำหนดประเภทสินค้านั้นก็ไม่ปรากฎหลักฐานชัดแจ้งว่าการแก้ไขระเบียบจะส่งผลต่อการทำสัญญา อีกทั้งการกำหนดส่งสินค้าต่างตอบแทนตามขั้นตอนปฏิบัติเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศด้วย ไม่ใช่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ รมว.พาณิชย์ เพียงลำพัง ประกอบกับก่อนหน้านี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายกฟ้องนายวัฒนาที่ตกเป็นจำเลยในคดีดังกล่าวแล้ว

"พยานหลักฐานในชั้นนี้จึงยังฟังไม่ได้ว่านายวัฒนากระทำประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนทำให้ กทม.ต้องซื้ออุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยจากบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด ประเทศออสเตรีย ในราคาแพง จึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง กทม.ดังกล่าว โดยมีย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.53" คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ระบุ

และมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง กทม.ที่ประกาศให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับ กทม.ที่เสียหายจากการทำสัญญาซื้อขายรถเรือดับเพลิง และอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เนื่องจากศาลเห็นว่านายอภิรักษ์ไม่มีอำนาจที่จะบอกเลิกสัญญาซื้อขายที่ได้ดำเนินการไปแล้ว รวมถึงนายอภิรักษ์แสดงให้เห็นถึงความพยายามการปกป้องผลประโยชน์ของทางราชการ หลังเห็นว่าการซื้อขายมีข้อบกพร่องของกฎหมาย จึงได้ยื่นขอระงับการเปิดหนังสือค้ำประกัน หรือ LC กับธนาคารกรุงไทย 2 ครั้ง และทำหนังสือถึงอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และหนังสือถึงนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย 2 ครั้ง ให้ทบทวนการสัญญา แต่นายโภคินก็ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ จึงเห็นว่านายอภิรักษ์ได้ระมัดระวังตามกรอบอำนาจหน้าที่ ไม่มีเจตนาทุจริตหรือทำให้เกิดความเสียหาย ประกอบกับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่าการกระทำของนายอภิรักษ์ ก็ไม่เป็นความผิด

อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวยังไม่ถึงสุด โดยคู่ความยังสามารถอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ