และหากมีการปล่อยให้พนักงานและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดกับแกนนำกลุ่ม กปปส. ผู้บริหารอาจต้องรับผิดตามกฎหมายของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงาน ความผิดฐานสนับสนุนการเป็นกบฏของแกนนำ กปปส. และความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง ศอ.รส. ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
"ศอ.รส.ได้รับข้อมูลว่ากลุ่ม กปปส.จะใช้พนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเข้าร่วมดำเนินการให้เกิดความเสียหายและเดือดร้อนแก่ระบบสาธารณูปโภค หรือกิจการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อเป็นการสนับสนุนหรือช่วยเหลือการกระทำผิดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ซึ่งจะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่อันเป็นภารกิจและความรับผิดชอบของ ศอ.รส." ศอ.รส..ระบุ
นอกจากนี้ ศอ.รส.ยังมีความกังวลต่อการที่กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) และ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้ประกาศนัดชุมนุมใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 5 พ.ค.นี้ โดยขอร้องให้แกนนำทั้งสองฝ่ายจัดการชุมนุมโดยสงบ และไม่ยั่วยุมวลชนให้เกิดการเผชิญหน้ากันซึ่งจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งเลวร้ายลงไปอีก ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าได้มีการชักชวนประชาชนจำนวนมากให้เข้าร่วมชุมนุมกับทั้งสองกลุ่ม
"ศอ.รส.ขอเรียกร้องพี่น้องประชาชนให้ใช้วิจารณญาณหลีกเลี่ยงการร่วมชุมนุม ไม่ว่ากับกลุ่ม กปปส. หรือกลุ่ม นปช. เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง และแม้ว่าการเข้าร่วมการชุมนุมจะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่หากมีการกระทำผิดกฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใดในการเข้าร่วมชุมนุมแล้ว ท่านก็จะต้องถูกดำเนินคดีทุกคนไปโดยไม่มีการละเว้น ส่วนแกนนำทุกคนจะต้องรับผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง โดย ศอ.รส.จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มอย่างเท่าเทียมกันเพื่อป้องกันเหตุร้ายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น" ศอ.รส.ระบุ
"เมื่อมีการยุบสภา อำนาจอธิปไตยก็ได้กลับคืนสู่ประชาชนแล้ว และเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะใช้อำนาจอธิปไตยนั้นผ่านการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลและสภานิติบัญญัติที่ชอบธรรม ซึ่งจะเห็นได้ว่านายสุเทพ ได้บิดเบือนประเด็นนี้อย่างชัดเจน เพราะในสมัยรัฐบาลที่นายสุเทพ เป็นรองนายกรัฐมนตรี เมื่อยุบสภาแล้ว นายสุเทพฯ กับคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นก็ได้อยู่ในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อๆมา จนมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ นายสุเทพฯ จึงใช้วาทกรรมบิดเบือนประเด็นเพื่อให้พี่น้องประชาชนหลงเชื่อโดยปราศจากความเป็นจริงตามรัฐธรรมนูญอย่างสิ้นเชิง" ศอ.รส.ระบุ