อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ ต่อการร่วมหาแนวทางออกของวิกฤติประเทศ แต่ตนขอฝากไปยังนายอภิสิทธิ์ด้วยว่าต้องอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ที่ว่ารัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุดและเป็นกติกาที่บังคับใช้ ดังนั้นการเสนอสิ่งที่อยู่นอกเหนือรัฐธรรมนูญ อาจจะเป็นเหตุให้มีกลุ่มบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ที่ไม่ยอมรับ นำประเด็นไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ว่าอาจจะเข้าข่ายการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และที่สำคัญข้อเสนอของการปฏิรูป ตามที่กลุ่ม กปปส. หรือเครือข่ายอื่นๆ เสนอนั้นจำเป็นอย่างยิ่งต้องแก้ไขกฎหมาย หรือรัฐธรรมนูญ ที่ต้องอาศัยรัฐสภาคือสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาเป็นองค์ประกอบ แต่ปัจจุบันองค์ประกอบดังกล่าวไม่ครบถ้วน ดังนั้นการดำเนินการดังกล่าวไม่สามารถทำได้
กรณีที่จะให้นักการเมืองถอยในวันนี้ พวกตนยอมถอยให้ แต่อย่าลืมว่าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำกับไว้นั้นไม่สามารถถอยได้ อาทิ นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง และได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร แต่วันนี้เมื่อมีการเสนอให้ปฏิบัติสิ่งที่นอกกติกา นายอภิสิทธิ์แน่ใจอย่างไรว่าจะไม่สูญเปล่า
"หนทางที่ดีที่สุดสำหรับทางออกประเทศคือยึดตามกติกา โดยรัฐบาลรักษาการทำหน้าที่ต่อไป และการเลือกตั้งตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้กำหนดเป็นเบื้องต้นคือวันที่ 20 ก.ค.นี้ก็เดินหน้าต่อ แต่อาจใช้จังหวะก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งทั่วไป ให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียและเป็นต้นเหตุของวิกฤติการเมืองได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ รัฐบาลชุดปัจจุบัน กลุ่ม กปปส. และทุกพรรคการเมือง มาร่วมพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุป จากนั้นก็มอบหมายให้ภาคส่วนสังคมที่ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่พรรคการเมือง หรือเครือข่ายการเมือง ร่วมร่างพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ จากนั้นเมื่อมีรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง 20 ก.ค.ให้รัฐบาลที่ได้มานั้นดำเนินการตามพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จากนั้นต้องยุบสภาเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใต้กติกาที่ได้จากการปฏิรูป"นายสมศักดิ์ กล่าว