ศอ.รส.ยัน"เฉลิม-สุรพงษ์"ยังคุมต่อ,เชื่อคำสั่งศาล รธน.นำไปสู่ความรุนแรง

ข่าวการเมือง Thursday May 8, 2014 16:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุมวันนี้ ในประเด็นแรกเกี่ยวกับสถานภาพของ ศอ.รส. ที่ประชุมฯ มีความเห็นว่า ศอ.รส. เป็นหน่วยงานพิเศษที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ดังนั้นคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ ศอ.รส. แต่อย่างใด

ขณะที่สถานภาพของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส.นั้น ที่ประชุม ศอ.รส. มีความเห็นว่าไม่ได้สิ้นสุดหรือพ้นไปจากผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงกรณีกระทำการต้องห้ามตามมาตรา 182 (7) แห่งรัฐธรรมนูญ ย่อมต้องหมายถึงความเป็นรัฐมนตรีในขณะที่ได้ร่วมพิจารณาและมีมติในการประชุมรัฐมนตรีครั้งนั้นๆ แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่า ร.ต.อ.เฉลิม ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งต่อมาได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ฉะนั้นการดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงานในภายหลังจนถึงปัจจุบันจึงมิได้เกี่ยวข้องกับการพิจารณาและมีมติในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งดังกล่าว จึงไม่น่าเป็นเหตุที่ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งรมว.แรงงานต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) อีก

กรณีดังกล่าวย่อมเป็นผลเช่นเดียวกันกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. ก็ย่อมพ้นไปเฉพาะตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศเพียงตำแหน่งเดียว แต่ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งภายหลังอีกตำแหน่งหนึ่งหาพ้นไปตามผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐมนธรรมนูญแต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ ศอ.รส. ขอยืนยันว่าในการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่อง ข้อเรียกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และกลุ่มผู้สนับสนุน กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น มิได้มีเจตนาที่จะก้าวล่วงหรือกดดันการพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่แถลงการณ์ดังกล่าวมีจุดประสงค์สำคัญในการป้องกัน ระงับ ยับยั้งและแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ของ ศอ.รส. อันเป็นความจำเป็นที่ไม่อาจจะละเลยได้

ศอ.รส.ยังยืนยันว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังคงนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงต่อไป สอดคล้องกับเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ เช่น เหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รวมทั้งเหตุปาระเบิดเข้าใส่บ้านพักของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ศอ.รส.ได้ปรับแผนอัตรากำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)ในวันที่ 9 พ.ค. และการชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ที่จะเริ่มในวันที่ 10 พ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ศอ.รส. ขอเรียกร้องพี่น้องประชาชนให้ใช้วิจารณญาณหลีกเลี่ยงการร่วมชุมนุม ไม่ว่ากับกลุ่ม กปปส. หรือกลุ่ม นปช. เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ