(เพิ่มเติม) "นิวัฒน์ธำรง"ห่วงหารือวุฒิฯที่รัฐสภาท่ามกลางผู้ชุมนุมกปปส.อาจเกิดการยั่วยุ

ข่าวการเมือง Wednesday May 14, 2014 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อคำเชิญของวุฒิสภาที่ให้รัฐบาลเข้าหารือทางออกประเทศไทย ท่ามกลางผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ที่ยังปักหลักอยู่หน้ารัฐสภา เพราะอาจเกิดการยั่วยุได้

พร้อมตั้งคำถามไปยังผู้ที่เสนอให้วุฒิสภาเสนอแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางว่า มีข้อกฎหมายใดหรือรัฐธรรมนูญมาตราใดมารองรับ

"เราพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ยั่วยุ สถานที่ตรงนั้น(รัฐสภา)มีผู้ชุมนุม ขออนุญาตหลีกเลี่ยง ขออนุญาตเป็นสถานที่กลางๆ" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลยินดีและเปิดกว้างที่จะพูดคุยกับทุกฝ่าย โดยอาจเชิญนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภาเข้าหารือในวงเล็ก

ส่วนการพูดคุยกับ กกต.นั้น ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เล่นแง่ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับประธานกกต.โดยตรง และมีการนัดหมายไว้เป็นวันพรุ่งนี้(15 พ.ค.) ในเวลา 10.00 น. ขณะเดียวกันรัฐบาลพร้อมชี้แจงและตอบทุกข้อเสนอของกกต. และย้ำว่าต้องการให้ปัญหาทุกอย่างจบโดยเร็ว แต่ต้องยึดหลักของกฎหมายและรัฐธรรมนูญเป็นหลัก

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า กรณีที่มีการมองกันว่ารัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอจากวุฒิสภาและฝ่ายต่างๆ เรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง หรือนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 นั้น รัฐบาลรักษาการไม่ได้ปฏิเสธ แต่การดำเนินการจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ โดยตั้งคำถามกลับว่าการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางจะใช้หลักกฏหมาย หรือรัฐธรรมนูญมาตราใดมารองรับ เพราะหากไม่มีกฎหมายมารองรับก็คงไม่สามารถดำเนินการได้

"กฏหมายรัฐธรรมนูญ ระบุชัดการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีต้องเป็นไปตามมาตรา 171 และ 172 ถ้ามีแนวคิดใด กฏหมายรัฐธรรมนูญข้อไหนที่อ้างอิงแต่งตั้งคนดังกล่าว หากไม่มีกฎหมายรองรับ รัฐบาลไม่สามารถทำต่อไปได้ หากท่านทำเองก็จะติดขัดขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถ้าไม่ถูกกฏหมาย รัฐบาลหรือข้าราชการคงไม่มีใครกล้านำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ หากท่านคิดว่าทำได้ ท่านต้องบอกข้อกฏหมายก่อน"นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว

และยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดถือกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้คนจำนวนมากอยู่ด้วยกันอย่างสงบเรียบร้อย เพราะหากไม่ปฏิบัติตามกฏหมายและกฏระเบียบจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม และความไม่สงบเกิดขึ้น ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องไปยังสถาบันหลักต่างๆ ตลอดจนองค์กรอิสระที่จำเป็นต้องยึดถือปฏิบัติตามกฏหมายและกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด

นายนิวัฒน์ธำรง ย้ำว่า อำนาจหน้าที่ของความเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการนั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และอ้างอิงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งล่าสุด และมีผลผูกพันธ์กับทุกองค์กร

การปฏิบัติหน้าที่ของตนนั้น ยืนยันว่าสามารถทำได้ตามพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดินมาตรา 10 ที่ระบุไว้ว่าให้คณะรัฐมนตรีชุดที่เหลือคัดเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมาก็ได้เลือกให้ตนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 โดยขอบเขตอำนาจหน้าที่นั้นเท่ากับนายกรัฐมนตรีอย่างสมบูรณ์ และสามารถบริหารราชการแผ่นดินภายใต้รัฐธรรมนูญ และสามารถทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาการกำหนดวันเลือกตั้งได้ ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารไม่ใช่อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ