"สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ไม่สามารถจะปล่อยปละละเลยอีกต่อไปได้ ดังนั้น ควรจะมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มมาบริหารประเทศโดยเร็ว ขณะที่รัฐบาลที่รักษาการอยู่ในปัจจุบันก็มีปัญหาในประเด็นข้อกฎหมายว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ควรมีรัฐบาลเฉพาะกิจเข้ามาปฏิรูปบ้านเมืองให้เรียบร้อย ซึ่งจะใช้เวลา 6-12 เดือนแล้วนำไปสู่การเลือกตั้ง"นายวันชัย กล่าว
พร้อมระบุว่า การประชุมวันนี้ที่ประชุมเห็นพ้องให้การทำงานของ ส.ว.เดินหน้าต่อไปในการที่จะร่วมหาทางออกให้ประเทศ เพราะที่ผ่านมาการดำเนินการขององค์กรต่างๆ พบอุปสรรค แต่องค์กรเหล่านั้นพร้อมจะให้การสนับสนุนและให้ข้อมูลแก่ทีมงานของ ส.ว.เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เหตุที่มีความจำเป็นต้องมีรัฐบาลเฉพาะกิจ เนื่องจากสถานะของรัฐบาลรักษาการในปัจจุบันมีปัญหาใน 2 จุดที่อาจจะทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ตามข้อมูลที่ได้รับจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คือ 1. ไม่มั่นใจสถานภาพของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ว่าจะสามารถดำเนินการแทนนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการทูลเกล้าฯ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ฏ.การกำหนดวันเลือกตั้ง ถึงแม้เลขาธิการกฤษฎีกาจะยืนยันว่านายนิวัฒน์ธำรงมีอำนาจก็ตาม แต่ กกต.ไม่มั่นใจ โดยจะขอให้ที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณากรณีนี้ให้ชัดเจนก่อน
นอกจากนี้ ยังมีอีกประเด็นที่ กกต.ขอให้เพิ่มการบรรจุเนื้อหาในมาตรา 4 ของร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง โดยเพิ่มอำนาจให้ประธาน กกต.สามารถเลื่อนการเลื่อนตั้งออกไปได้ หากเกิดปัญหาจนไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ซึ่งในจุดนี้กฤษฎีกายังมีความเห็นที่แตกต่างและอาจเป็นประเด็นข้อขัดแย้งที่นำไปสู่การตีความของศาลรัฐธรรมนูญได้
"แนวโน้มที่จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่จากการเลือกตั้งยังมองไม่เห็นเลยจากอุปสรรคที่มีอยู่"นายคำนูณ กล่าว