ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งฝ่ายที่มีความเห็นต่าง ให้มาร่วมกันเข้าสู่การเจรจาหาข้อยุติโดยเร็ว โดยใช้ทั้งหลักของรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ รวมทั้งกลไกของรัฐสภา
"เราหวังที่จะให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว แต่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง...วอนทุกฝ่ายให้มาร่วมเจรจาหาทางออกร่วมกัน" ศ.นพ.รัชตะ กล่าว
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ได้สรุปสาระสำคัญของการประชุมรวมทั้งมีข้อเรียกร้องจากวุฒิสภาไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.ระหว่างที่ยังรอคำตอบเรื่องการหาทางออกให้ประเทศของวุฒิสภานั้น ขอวิงวอนให้คู่ขัดแย้งทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงต่างๆ ในทุกกรณี 2.ฝากถึงนักกฎหมายว่าในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติขณะนี้ จำเป็นต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ควบคู่กันไป โดยขอว่าอย่านำเงื่อนทางกฎหมายมาใช้ปฏิเสธแนวทางที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำเสนอ เพราะจะเท่ากับเป็นโซ่ตรวนในการผูกมัดประเทศไว้
3.ฝากถึงสื่อมวลชนให้เข้าใจตรงกันว่าวุฒิสภายังไม่เคยพูดว่าจะใช้แนวทางนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เพราะขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ออกมาจากวุฒิสภา ดังนั้นขอว่าอย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะจะยิ่งนำไปสู่ความแตกแยกและทำลายความหวังของประเทศที่กำลังเดินหน้าหาทางออกอยู่ในขณะนี้ 4.อยากรับฟังข้อเสนอจากฝ่ายรัฐบาล พรรคเพื่อไทย รวมทั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โดยขอส่งสัญญาณนี้ผ่านไปยังแกนนำ นปช.ว่าวุฒิสภาพร้อมที่จะพบปะหารือด้วย โดยขอให้นัดหมายวัน เวลา และเลือกสถานที่ได้โดยไม่มีข้อจำกัด
และ 5.ระหว่างที่ยังรอคำตอบจากวุฒิสภาถึงแนวทางออกประเทศนั้น ขอให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำใดๆ ที่เป็นการยั่วยุเพื่อให้ประชาชนเกิดการคล้อยตามไปในวิถีทางที่ให้เกิดความรุนแรง รวมทั้งขอให้หยุดการกล่าวร้ายป้ายสีต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้ตนและสมาชิกวุฒิสภาได้มีสมาธิกับการทำงานอย่างเต็มที่ในการหาทางออกให้แก่ประเทศ