สืบเนื่องจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแกนนำ กปปส. ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดร้ายแรง แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. ก็มิได้ยุติการกระทำความผิด กลับยังคงดำเนินการเพื่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองขึ้นอีก โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) โดยนายคมสัน ทองสิริ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกบฏและข้อหาอื่น ซึ่งพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องและศาลได้ออกหมายจับไว้เพื่อร่วมกันปฏิบัติการ โดยสหภาพแรงงานได้ขอให้สมาชิกสหภาพแรงงานทั่วประเทศนัดหยุดงาน พร้อมทั้งติดป้ายสนับสนุนให้มีรัฐบาลใหม่ตามที่ กปปส. เรียกร้อง รวมถึงการแสดงสัญลักษณ์การประท้วงต่างๆ
การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกแถลงการณ์ร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ดังกล่าว น่าเชื่อว่าเกิดจากการยุยง ปลุกปั่นของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่กระทำผิดกฎหมาย โดยสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ที่ประกอบไปด้วยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจหลายๆ กลุ่ม มีความเป็นอิสระในการใช้วิจารณญาณตัดสินใจที่จะกระทำการหรือไม่กระทำการตามคำยุยงปลุกปั่นของนายสุเทพฯ อีกทั้งปัจจุบันกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจหลายกลุ่มก็ยังคงมีพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มุ่งมั่นทุ่มเทตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถภายใต้สถานการณ์ที่ถูกกดดันอย่างไม่ย่อท้อ ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและประโยชน์สุขของประชาชนเป็นส่วนรวม
อย่างไรก็ตาม ศอ.รส. ขอแสดงความชื่นชม ให้กำลังใจ และขอขอบคุณพนักงานรัฐวิสาหกิจรวมถึงเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐทุกท่านที่ยังคงตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ และขอความร่วมมือกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ พึงระลึกถึงข้อปฏิบัติของการดำรงตนให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ละเว้นไม่กระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะการหยุดงาน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนโดยรวมเป็นอย่างมาก รวมถึงไม่กระทำการอันใดที่เข้าข่ายเป็นความผิดต่อกฎหมาย เพราะมิฉะนั้น นอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีความผิดทางอาญาแล้ว ยังจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวเองและครอบครัว อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงเกียรติยศวงศ์ตระกูลอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ฉบับนี้เป็นความเห็นและดำเนินการโดยฝ่ายบริหารของ ศอ.รส. โดยตรง ซึ่งไม่ได้ขอให้ฝ่ายทหารร่วมมีความเห็นและดำเนินการด้วย