โดยตนเองได้ชี้แจงข้อกฎหมายเกี่ยวกับสถานะของคณะรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันเป็นคณะรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2557 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ที่ให้รัฐมนตรีที่ไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ซึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันให้ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็น คณะรัฐมนตรี วุฒิสภา ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญ เป็นต้น จะต้องปฏิบัติตาม(รัฐธรรมนูญมาตรา 216) ส่วนนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล สามารถปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจเท่ากับตำแหน่งที่ทำหน้าที่ (นายกรัฐมนตรี) ได้ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 10 และมาตรา 48
ดังนั้น ขณะนี้จึงมีคณะรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์
สำหรับการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง และให้มีอำนาจในการบริหารราชการได้อย่างเต็มที่ (ไม่ถูกจำกัดด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 181) รัฐบาลได้ชี้แจงว่า ไม่สามารถกระทำได้ เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีคณะรัฐมนตรีและผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จะแต่งตั้งซ้อนไม่ได้ อีกทั้งการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มนั้น ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 และ 172 ประกอบกับอยู่ในระหว่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา พ.ศ.2556 ยังบังคับใช้อยู่ ซึ่งข้อเสนอแนะเรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่อ้างว่า มีอำนาจเต็มนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะยังต้องถูกจำกัดอำนาจในการบริหารตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 จึงเป็นกรณีที่ไม่แตกต่างจากคณะรัฐฒนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่ในปัจจุบัน สรุปความว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร จากการศึกษาข้อกฎหมายพบว่า ไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราอื่นใด ระบุเรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอีก
สำหรับประเด็นที่มีการขอให้คณะรัฐมนตรีลาออกนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติน้าที่ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 181 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ที่กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
"ที่ประชุมเห็นพ้องด้วยกันว่า ทุกฝ่ายควรหาทางแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประเทศชาติ และประชาชนมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ทางรัฐบาลยินดีปรึกษาหารือกับวุฒิสภาและฝ่ายต่างๆตลอดเวลาเพื่อหาทางออกที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย โดยเร็วที่สุดต่อไป" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว