นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว.สรรหา ในฐานะว่าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แถลงผลการหารือของวุฒิสภาในการประชุมนอกรอบช่วงบ่ายวันนี้ว่า ได้แจ้งต่อที่ประชุมในการเป็นตัวแทนไปพูดคุยกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โดยเห็นตรงกันว่า สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ จำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ
แต่ยังติดขัดในเรื่องข้อกฎหมายที่มองไม่ตรงกัน เนื่องจากรัฐบาลยืนยันว่าไม่สามารถที่จะลาออกได้ เพราะต้องทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกฟ้องร้องจามมาตรา 157 ในประมวลกฎหมายอาญา ขณะที่วุฒิสภามองว่าการลาออกเป็นสิทธิเฉพาะตัวที่สามารถทำได้ ดังนั้น วุฒิสภาจะดำเนินการตามแผนอื่นที่เคยแถลงไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งแผน 2 แผน 3 ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะทราบดีว่าในขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่อาจจะเกิดความวุ่นวายเกิดขึ้นได้
ด้านนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ ส.ว.สรรหา ระบุว่า การพูดคุยกับรัฐบาลยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยในส่วนของการเลือกตั้ง รัฐบาลเห็นว่าควรจะมีการจัดการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป แต่วุฒิสภากลับมีความเห็นไม่ตรงกัน และการที่รัฐบาลมองว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งใน 60 วันได้นั้น ทางวุฒิสภายืนยันได้ว่าไม่น่าจะดำเนินการได้ทันน ซึ่งทางรัฐบาลเองได้แนะนำว่าให้วุฒิสภาไปพูดคุยกับคู่กรณีอื่นๆ รวมถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ระบุว่า หลังจากที่ได้รับฟังข้อมูลในวันนี้ ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ในฐานะว่าที่ประธานวุฒิสภาและคณะทำงาน รับไปดำเนินการประสานกับทุกด้าน เพื่อเดินหน้าในการทำงานต่อไป
ทั้งนี้ นายสมชาย ยืนยันว่าหากถึงช่วงวิกฤติรัฐสภามีอำนาจที่จะสามารถเปิดประชุมสภาเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองได้ โดยยึดอำนาจตามข้อบังคับของวุฒิสภา โดยปฏิเสธไม่ทราบว่ามีข่าวการพูดคุยกับองคมนตรีในเรื่องของอำนาจการเปิดประชุมสภา
พร้อมกันนี้ นายสมชายไม่ขอระบุว่าจะใช้เวลาเท่าใดในการแก้ไขวิกฤติทางการเมืองครั้งนี้ เพียงแต่ยืนยันว่าวุฒิสภาจะดำเนินการภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งฝากให้รัฐบาลเข้ามาร่วมมือกับวุฒิสภาในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเรื่องของสถานการณ์ที่ส่อเค้าว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมทั้งฝากฝ่ายความมั่นคงให้เข้ามาดูแลความเรียบร้อยด้วย
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา และโฆษกคณะทำงานประสานงานองค์กรวุฒิสภา กล่าวว่า การดำเนินการตามแผน 2 แผน 3 หลังจากนี้คงไม่จำเป็นต้องรอความร่วมมือจากทางรัฐบาล หลังจากที่รัฐบาลปฏิเสธที่จะลาออก ซึ่งแนวทางการเปิดประชุมสภา หรือการดำเนินการในเรื่องใดๆนั้นจะยึดตามกรอบรัฐธรรมนูญทุกมาตราที่จะสามารถดำเนินการได้ โดยทางวุฒิสภาจะหาข้อยุติให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประธานและคณะทำงานจะไปพิจารณาต่อไป
"หากรัฐบาลยอมทำตามแผนที่ 1 คือ ลาออกจากตำแหน่ง งานทุกอย่างก็จะดำเนินการได้งาย แต่ในเมื่อรัฐบาลยังไม่ลาออก วุฒิก็จะเดินหน้าต่อไป หากมีแนวทางที่ทำไปจนถึงจุดนั้นได้(ทูลเกล้าฯนายกรัฐมนตรีคนกลาง)วุฒิสภาก็จะทำทันที"นายวันชัย กล่าว