นายสุรชัย กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นการตัดสินใจของฝ่ายความมั่นคงที่มีประกาศออกมาเพื่อต้องการดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนเองจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงาน แต่จะขอรอดูสถานการณ์ 1-2 วันนี้ว่าฝ่ายความมั่นคงจะสามารถหาทางออกให้กับประเทศได้หรือไม่
"เป็นการตัดสินสินใจและดุลยพินิจของฝ่ายความมั่นคง ผมจะไม่เข้าไปก้าวก่ายด้วย ภารกิจของวุฒิสภา คือการผ่าทางตัน ซึ่งทางวุฒิสภาจะเดินหน้าทำงานต่อไป และให้คำตอบกับประชาชนว่า จะสามารถหาทางออกให้กับวิกฤติในครั้งได้อย่างไร" นายสุรชัย กล่าว
ทั้งนี้ วุฒิสภาไม่มีความจำเป็นต้องประสานงานกับทางกองทัพ เพราะวุฒิสภาไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของคู่ขัดแย้ง โดยหลังจากนี้ทางวุฒิสภาจะมุ่งมั่นในการทำงานอย่างต่อเนื่อง และหาข้อสรุปโดยเร็วที่สุด พร้อมเตือนไปยังหน่วยงานราชการบางหน่วยให้เลิกกับพฤติกรรมที่ต้องการนำวุฒิสภาไปเป็นคู่ขัดแย้งในสังคม และเรียกร้องให้วุฒิสภาได้ทำงานอย่างเต็มที่ก่อน
นายสุรชัย ยังฝากถึงคนไทยทุกคนว่า อยากให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ในช่วงนี้ให้ผ่านไปได้ อยากให้ทุกฝ่ายช่วยลด ละ เลิก ยึดติดตนเอง โดยขอให้มองถึงผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก
พร้อมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกรณีที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีการพิจารณาถึงการแต่งตั้งประธาวุฒิและรองประธานวุฒิ โดยระบุเพียงว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะกรรมการกฤษฎีกา หากได้ข้อสรุปอย่างไรวุฒิสภาจะกลับมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง