อย่างไรก็ดี คงไม่สามารถระบุกรอบเวลาในการบังคับใช้กฎอัยการศึกได้ว่าจะใช้ไปอีกนานเท่าใด เพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งหากสถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยก็จะยกเลิกประกาศดังกล่าว
"พวกเรามีความตั้งใจอันดีที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ขอให้ข้าราชการทุกคน ภาคประชาสังคม ได้ร่วมมือกันสนับสนุนการแก้ปัญหาไปให้ได้โดยเร็ว พวกเราจะพยายามรักษาสถานภาพนี้ไปสู่จุดนั้นโดยเร็ว อย่ามาถามว่าจะใช้ไปนานหรือไม่นาน ขอให้บ้านเมืองสงบปลอดภัย เพราะไม่มีใครอยากประกาศไว้นาน ขอให้หาทางออกได้โดยเร็วทุกฝ่าย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมยืนยันว่าจะไม่ยอมให้เกิดการนองเลือดขึ้นบนแผ่นดินไทยอย่างแน่นอน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเชิญคู่ขัดแย้งทางการเมืองและฝ่ายต่าง ๆ มาเจรจาหารือกัน เพราะถือว่าอยู่ในกระบวนการที่จะต้องดำเนินการในการหาทางออกร่วมกัน พร้อมเห็นทุกฝ่ายควรจะหยุดการกระทำใดๆ ที่จะนำไปสู่การยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง เพราะตราบใดที่ยังมีการกระทำในลักษณะนี้อยู่ก็จะไม่สามารถมาเจรจากันได้
"ก็ต้องให้คู่ขัดแย้งมาพูดคุยกันท่ามกลางสถานการณ์ที่สงบ ตราบใดที่ไม่สงบ ยังมีการเคลื่อนไหว ยุยงปลุกปั่น สร้างภาพให้เกิดความรุนแรงขึ้นก็จะพูดกันไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องหยุดก่อน ไม่เช่นนั้นพูดกันไม่รู้เรื่อง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมขอให้ข้าราชการประจำทุกหน่วยงานปฏิบัติงานไปตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลใดๆ เกี่ยวกับการประกาศใช้กฎอัยการศึกในครั้งนี้ โดยยืนยันว่าทุกอย่างยังสามารถดำเนินการไปตามปกติ และทหารจะพยายามละเมิดสิทธิมนุษยชนให้น้อยที่สุด หรือทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด อีกทั้งขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวส์แต่อย่างใด