ทั้งนี้ ประกาศกอ.รส. ฉบับที่ 6/2557 เรื่อง เชิญคณะบุคคลสำคัญเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 23 พ.ค. 57 เวลา 13.30 น. ณ สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. กำหนดผู้หารือ ดังนี้
1. ผู้แทนรัฐบาล ประกอบด้วย รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะอีก 4 ท่าน
2. ผู้แทนวุฒิสภา ประกอบด้วย รองประธานวุฒิสภาท่านที่ 1 พร้อมคณะอีก 4 ท่าน
3. คณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้ง 5 ท่าน
4. ผู้แทนพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย หัวหน้าพรรค พร้อมคณะอีก 4 ท่าน
5. ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย หัวหน้าพรรค พร้อมคณะอีก 4 ท่าน
6. ผู้แทน กปปส. ประกอบด้วย เลขาธิการ กปปส. พร้อมคณะอีก 4 ท่าน
7. ผู้แทน นปช. ประกอบด้วย ประธาน นปช. พร้อมคณะอีก 4 ท่าน
สำหรับมวลชนและกลุ่มผู้ให้การสนับสนุน ให้งดการเดินทางติดตามคณะบุคคลดังกล่าว โดยให้ยังคงอยู่ในพื้นที่ชุมนุม ตามที่กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยได้มีคำสั่งไว้แล้ว
พ.อ.หญิงสิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในเวลา 13.30 น.วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รส.ได้เชิญนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.พร้อมด้วยตัวแทนของแต่ละฝ่ายๆ ละ 5 คนมาร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศที่สโมสรทหารบกในช่วงบ่ายวันนี้
ส่วนภาพรวมภายหลังการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกวานนี้ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ต่างชาติแสดงท่าทียอมรับ และเข้าใจการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว เพราะเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทย ซึ่ง กอ.รส.ยืนยันว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นไปตามการปกครองระบอบประชาธิปไตย มุ่งรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรวมของประเทศให้เดินหน้าต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ
พร้อมย้ำว่ากองทัพจะใช้กฎอัยการศึกเพียงบางมาตรา และให้ละเมิดสิทธิน้อยที่สุด จึงขอให้ประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่จะดำเนินเพียงเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยยึดตามหลักสากลอย่างเคร่งครัด จึงขอให้นานาชาติเคารพการบริหารจัดการของประเทศไทย
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงเหตุผลที่ต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เพราะที่ผ่านมาความขัดแย้งไม่ได้อยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งตามหลักฐานมีการตรวจสอบพบการเคลื่อนไหวของกองกำลังที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยในหลายพื้นที่ ไม่จำกัดอยู่เพียงในกรุงเทพฯ โดยล่าสุดจับกุมอาวุธสงครามได้ที่จังหวัดนครนายก และลพบุรี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป
ขณะที่มีรายงานขาวว่า นายนิวัฒธำรงค์ บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพย์พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ ว่าจะส่งตัวแทนของรัฐบาลเข้าหารือ มีนายชัยเกษม นิติศิริ รมว.ยุติธรรม นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรและสหกรณ์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์ รมช.ศึกษาธิการ โดยหลังจากนี้จะไม่มีการหารือระหว่างนายนิวัฒธำรง และ พล.อ.ประยุทธ์อีก แต่นายนิวัฒธำรงได้หารือกับพล.อ.นิพัทน์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหมที่กระทรวงพานิชย์
ส่วนผู้แทนจากกลุ่มต่างๆ ที่จะเข้าหารือ มีดังนี้ วุฒิสภา นำโดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา, กกต.ประกอบด้วย นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต., นายประวิช รัตนเพียร, นายบุญส่ง น้อยโสภณ, นายสมชัย ศรีสุทธิยากร และ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.
ผู้แทนพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอิน รองหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค, นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กรรมการยุทธศาสตร์ ด้านผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค, นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค และนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค
ด้านผู้แทนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง