ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า หากจุดยืนของคู่ขัดแย้งทางการเมืองแต่ละฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกัน อาจจะนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารได้หรือไม่
พร้อมยืนยันว่า คงไม่สามารถลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากจะเป็นการขัดต่อข้อกฎหมาย โดยขณะนี้ทำหน้าที่แค่เพียงรัฐบาลรักษาการต้องยึดการปฏิบัติตามมาตรา 181 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ และต้องปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะหากไม่ทำจะถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ พร้อมเห็นว่าไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะได้มาซึ่งรัฐบาลใหม่ นอกเหนือไปจากการเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่มีชื่อ ผบ.ทบ.เป็นหนึ่งนายกฯ คนกลาง นั้น นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวเพียงว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้าตามรัฐธรรมนูญแล้วควรจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวถึงสาเหตุที่ในวันนี้ไม่ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบ(กอ.รส.)นั้น เป็นเพราะติดภารกิจอื่น จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีท่านอื่นเป็นตัวแทนรัฐบาลไปร่วมหารือแทน อย่างไรก็ดี ยังมีความต้องการจะพบปะพูดคุยกับ ผบ.ทบ.โดยตรง แต่เข้าใจว่าช่วงนี้ ผบ.ทบ.คงมีภารกิจมากจึงไม่สามารถที่หาเวลามาหารือกันโดยตรงได้