"ที่ ถ.อักษะ เรียบร้อยตั้งแต่หัวค่ำวานนี้ สำหรับพื้นที่อื่นๆ จะทยอยตามกันไป คาดว่าภายในวันนี้จะเรียบร้อย หลังจากนั้นจะเป็นการบริหารจัดการพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่กลับคืนสู่ภาวะปกติ ให้การจราจรเหมือนเดิม" รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าจากการประกาศเคอร์ฟิวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ห้ามบุคคลออกภายนอกเคหะสถานตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00-05.00 น.นั้น อาจจะส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตตามปกติของประชาชน และผู้ประกอบการบางส่วนอาจต้องปรับเวลาในการทำธุรกิจบ้าง แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะผ่อนผันให้กับผู้ที่มีความจำเป็นจริงๆ ซึ่งสามารถแสดงหลักฐานประกอบเหตุผลถึงความจำเป็นในการออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้
"การออกนอกเคหะสถานอาจทำให้พี่น้องประชาชนต้องปรับตัวบ้าง แต่ คสช.จะพิจารณาให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตให้น้อยที่สุด แต่ผู้ที่เจ็บป่วย หรือผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศยังสามารถแจ้งเหตุผลความจำเป็นกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ แต่อาจต้องมีหลักฐานแสดงตน และหลักฐานที่ระบุถึงเหตุผลและความจำเป็นให้เจ้าหน้าที่ได้ดู" พ.อ.วินธัย ระบุ
พร้อมกันนี้ ยังขอความร่วมมือประชาชนใช้วิจารณญาณในการโพสต์หรือส่งต่อข้อความ ข่าวสารต่างๆ ในโลกออนไลน์ เนื่องจากการโพสต์ข้อความต่างๆ ในโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นเหตุหนึ่งที่สร้างความแตกแยกอันอาจจะนำไปสู่ความไม่สงบให้เกิดขึ้นได้
"การโพสต์ข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์ค เป็นสื่อหลักที่สร้างความแตกแยก และนำไปสู่ความไม่สงบ ในสังคมออนไลน์เราได้ขอความร่วมมือไปแล้ว และต้องให้ความสำคัญกับเหตุผลและความจำเป็นในช่วงนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนในการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย" รองโฆษกกองทัพบก กล่าว