ส่วนนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ที่ยังไม่เข้ามารายงานตัวตามคำสั่งของ คสช.นั้น ตามขั้นตอนจะดำเนินการทางกฏหมายและตามประกาศของ คสช.
ส่วนกรณีมีกลุ่มมวลชนออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้าน คสช.นั้น โฆษก คสช.กล่าวว่า คสช.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะใช้มาตรการทางกฏหมาย โดยทางทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการด้วยวิธ๊การที่ละเอียดอ่อน
ส่วนกรณีที่สหรัฐอเมริกาตัดความช่วยเหลือทางทหารทั้งด้านการฝึกและทางการเงินนั้น โฆษก คสช. ชี้แจงว่า ทาง คสช.ได้มีการทำความเข้าใจโดยได้สื่อสารผ่านทางผู้ช่วยฑูตทหาร ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับต่างชาติได้
นอกจากนี้ พ.อ.วีรชน สุคลธปฎิภาค รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้บัญชาการทหารบกของสหรัฐแล้ว ซึ่ง ผบ.ทบ.สหรัฐ ได้แสดงความห่วงใย พร้อมทั้งให้กำลังใจและเข้าใจถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ในฐานะที่เป็นทหารเหมือนกัน ส่วนในเรื่องของรัฐบาลสหรัฐนั้นจะมีแนวทางอย่างไรนั้นคงเป็นอีกกรณีหนึ่ง
ทั้งนี้ในเวลา 14.00 น. พล.ท.ภาณุวัชร์ นาควงษ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายกิจการพลเรือน ในฐานะกำกับดูแลด้านสื่อมวลชน ได้เชิญผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศ 19 ราย ร่วมหารือแนวทางการรายงานข่าว ที่ห้องเทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การที่ระงับการออกอากาศสถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ที่ผ่านมา เพื่อต้องการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเมื่อสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว ทาง คสช. ก็เปิดให้สถานีต่างๆ ดำเนินการตามปกติ และ คสช.พร้อมรับฟังความคิดเห็นสะท้อนมายัง คสช.ได้
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เรียกประชุมคณะที่ปรึกษา และรองหัวหน้า คสช.นอกรอบ ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.), ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.), ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.), พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เพื่อสรุปสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมาที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต
หลังจากนั้น หัวหน้า คสช.ได้ร่วมประชุมหารือกับฝ่ายเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้ประกอบการค้าน้ำมันตามมาตรา 7 และผู้ประกอบการขนส่งน้ำมันตามมาตรา 12 เป็นต้น