"ยอมรับว่าบางโครงการมีความจำเป็นต้องทบทวน เช่น โครงการแท็บเล็ตของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะนำไปทบทวนว่าจะเดินหน้าต่อหรือจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไรบ้าง" ผบ.ทร. ระบุ
ทั้งนี้ ในการประชุมร่วมกันในวันนี้ แต่ละกระทรวงได้สรุปลักษณะงานของแต่ละกระทรวง รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน ซึ่งในส่วนของการสร้างความปรองดองให้แก่คนในชาติ ถือเป็นสิ่งที่จะรีบเข้าไปดำเนินการแต่จะเป็นรูปธรรมได้เมื่อไหร่ต้องขอเวลาทำงานก่อน
"แน่นอนว่าจำเป็นต้องทำให้สังคมเกิดความรักใคร่กลมเกลียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ"ผบ.ทร.กล่าว
ผบ.ทร.ยอมรับว่า การประกาศเคอร์ฟิว เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงไปประมาณ 20% ซึ่งทางหัวหน้า คสช.คงอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยจะคำนึงถึงเรื่องสถานการณ์ความสงบในประเทศเป็นหลัก แต่ก็จะเร่งทำงานเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับมา แต่ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
ด้านนายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หัวใจหลักของกระทรวงท่องเที่ยวคือ การสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย ซึ่งพบว่าวันที่ 23 -26 พ.ค.จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 20% ทางกระทรวงท่องเที่ยวจึงเสนอให้มีการยืดหยุ่นช่วงเวลาเคอร์ฟิว แต่ทาง คสช.ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯ ยังฝากให้ คสช.ช่วยดูแลเรื่องการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้หัวหน้าฝ่ายจิตวิทยา รับปากว่าจะหาโอกาสไปรับฟังแนวนโยบายของกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องในโอกาสต่อไป
นายสุวัตร กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงท่องเที่ยวฯเอง อยากทราบความชัดเจนของแนวทางการดำเนินการว่าหลังจากนี้จะมีธรรมนูญการปกครองได้เมื่อไหร่ และจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้เมื่อไหร่ ซึ่งถ้ามีความชัดเจนจะได้นำไปกำหนดเป็นแผนงานเพื่ออธิบายให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ
สำหรับกระทรวงที่เข้าร่วมประชุมกับหัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยาในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา