พร้อมยืนยันว่า คสช. บริหารงานภายใต้ความ ถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบได้ จะไม่ยอมให้มีการกระทำในลักษณะดังกล่าวอย่างแน่นอน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติ ไม่อยากให้บางฝ่ายไปยึดติดกับภาพเก่าๆเดิมๆ
สำหรับโครงการขนาดใหญ่ โครงการที่มีวงเงินสูง หรือที่ประชาชนให้ความสนใจ หรือบางโครงการที่มีเป้าหมายไม่ชัดเจน เป็นนโบายของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะต้องมีการนำมาพิจารณาทบทวน ซึ่งเป็นไปได้ในหลายแนวทาง เช่น บางโครงการอาจต้องมีการปรับใหม่ให้สมบูรณ์มีเป้าหมายชัดเจนตอบสนองความต้องการประชาชนตรงจุด หรือบางโครงการที่ไม่สำคัญเร่งด่วนอาจจะต้องชะลอ หรือบางโครงการที่ไม่เหมาะสมอาจต้องระงับหรืออาจต้องยกเลิกไป
"ขอให้เข้าใจว่าทุกเรื่องที่ คสช.ได้คิดและพิจารณา เกิดจากการรับฟังมาจากหลายกลุ่ม หลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ประกอบด้วย ประชาชน ข้าราชการ กลุ่มที่ปรึกษา รวมทั้งจากสื่อมวลชน และจากข้อร้องเรียนของประชาชน ซึ่งทั้งหมดได้ถูกรวบรวมมาแล้วพยายามนำไปดำเนินการแก้ไข อะไรแก้ได้เลยโดยไม่มีผลกระทบหรือเป็นปัญหาก็จะดำเนินการเลย บางอย่างเริ่มต้นด้วยการชะลอก็พยายามดำเนินการอยู่แล้ว แต่บางอย่างที่ยังมีเรื่องของกฎหมายและระเบียบควบคุมอยู่ หรือเป็นเรื่องของโครงสร้างทั้งระบบ จะรีบดำเนินการโดยไม่ศึกษาผลกระทบก่อนไม่ได้ เพราะแก้หนึ่งเรื่องอาจมีผลกระทบไปหลายเรื่อง บางเรื่องอาจมีผลกระทบไปถึงโครงสร้างระบบการเงินการคลังของประเทศ รายได้ของรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้น และอีกมากมาย" พ.อ.วินธัย กล่าว
สำหรับการแก้โครงสร้างระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ไม่ว่าจะเป็น ด้านพลังงาน เงินชดเชยต่างๆ เรื่องภาษี และรายได้เกษตรกร ในระยะแรกพยายามผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชน ระยะต่อไปเมื่อมีรัฐบาล มีคณะรัฐมนตรี จะได้นำเข้าไปดำเนินการให้ถูกต้องจนทุกฝ่ายพึงพอใจ
"ขอให้มั่นใจ คสช.บริหารแผนโครงการและงบประมาณภายใต้ความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบได้ จะไม่มีในเรื่องทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบการจัดซื้อจัดจ้างในทุกโครงการสามารถเข้าแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีระบบผูกขาดใดๆ" พ.อ.วินธัย กล่าว
ส่วนเรื่องการศึกษาหรืออะไรก็ตามบางอย่างอาจทำได้เลย บางอย่างต้องคอยให้ระบบกลไกเดิมได้ทำงาน เพราะที่ผ่านมาระบบอาจทำงานไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเรื่องการเมือง ระบบบริหารราชการ ตัวข้าราชการ และกฎหมาย อาจมีปัญหา
"วันนี้ปัญหาหรือความเดือนร้อนและข้อข้องใจได้รับทราบครบถ้วน เพียงแต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา การเร่งรัดมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อประเทศชาติในอนาคต" พ.อ.วินธัย กล่าว
คสช.ต้องการแก้ปัญหาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ขจัดเรื่องผลประโยชน์ ธุรกิจทับซ้อนให้หมดไปทันที แต่เนื่องจากปัญหาได้สะสมมานาน มีเรื่องราวหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ทำให้ประชาชนสับสนและไม่เข้าใจ ข้าราชการก็ไม่ดี ไม่แก้ไข ทำให้เกิดความยุ่งยากมาจนถึงปัจจุบัน
"คสช.มีความตั้งใจจริง มิได้มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างที่หลายกลุ่มหลายฝ่ายได้กล่าวอ้าง และขอยืนยันว่าจะไม่เริ่มแก้ไขสิ่งที่ผิด สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการที่จะเริ่มทำความผิดขึ้นใหม่ หรือปล่อยให้มีการทำผิดเสียเอง" พ.อ.วินธัย กล่าว
สำหรับความคาดหวังจากการที่ คสช.ได้พยายามดำเนินการมาหรือที่พยายามดำเนินการอยู่ ยากที่จะใช้คำว่า WIN-WIN น่าจะใช้คำว่า ทุกคนได้รับผลประโยชน์ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ โดยที่เงินงบประมาณของประเทศไม่รั่วไหล คนไทยหลายคนใจร้อน และรักความยุติธรรม
"หัวหน้า คสช.เข้าใจ กำลังจะดำเนินการให้อยู่อย่างดีที่สุด เราไม่สามารถแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็นสิบสิบปีได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน เว้นแต่เรื่องที่ติดขัดนั้นไม่ขัดกฎหมาย ซึ่งเดิมถูกละเว้น ถูกบิดเบือน เราต้องทำให้กฎกติกาเหล่านั้นทำงาน และทำให้ทันสมัยขึ้น" พ.อิ.วินธัย กล่าว