นอกจากนี้ ยังระบุว่าการจัดซื้อจัดจ้างโครงการของรัฐหลังจากนี้ไปจะต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลให้สาธารณะและสื่อมวลชนรับทราบรวมทั้งต้องเผยแพร่เอกสารต่างๆ ตามเว็บไซต์ เพื่อให้ภาคประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ พร้อมกันนี้จะปรับการกำหนดราคากลางแต่ละโครงการจะต้องให้เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 58 นี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ คสช.รับทราบการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2557 ของหน่วยงานราชการที่มูลค่าโครงการเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 28 โครงการ มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท เพื่อให้มีเงินค้างในระบบการเบิกจ่ายให้น้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม คสช.ระบุจำเป็นต้องทบทวนโครงการที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณเหล่านี้ เพราะหลายโครงการที่ไม่มีความจำเป็น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทบทวนราคากลางที่เสนอมาเป็นหลัก
ดังนั้น จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอแผนความจำเป็นในการดำเนินการแต่ละโครงการ และจะสรุปผลการพิจารณาความสำคัญของแต่ละโครงการได้ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า เบื้องต้นมี 2 โครงการของกรมชลประทานในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเห็นควรให้ทบทวนที่มาของโครงการและที่มาของราคากลางว่ามีความคุ้มค่าต่อประชาชนจริงหรือไม่ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกกลางร่วมติดตามตรวจสอบผลการประมูล ความคิดเห็นจากการลงทุน เพื่อให้โครงการทั้งหมดลงทุนให้สอดคล้องตามความเป็นจริง
ส่วนโครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพา(แท็บเล็ต) ของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ทาง คตร. ยังไม่ได้พิจารณา แต่ทางกระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งว่าจะมีการทบทวน โดยชะลอโครงการที่ยังค้างอยู่ รวมทั้งส่วนที่เหลือในปี 57 ก็จะมีการชะลอเช่นกัน โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการ