"ยืนยันว่าไม่ใช่การปิดกั้น และกระทบสิทธิการรับรู้โดยเฉพาะในข้อเท็จจริงที่ประชาชนควรรู้ นอกจากข่าวที่เป็นเพียงการจินตนาการ เป็นการคาดเดา หรือการสร้างกระแสข่าวลือเพื่อหวังแสวงประโยชน์อันมิชอบผ่านสื่อ ก็อาจต้องขอความร่วมมือให้พิจารณาในการวางน้ำหนักพื้นที่ข่าวให้เหมาะสม"พ.อ.วินธัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก็คงอยู่ในลักษณะของการแลกเปลี่ยน และรับฟังกันด้วยหลักเหตุผลข้อเท็จจริงภายใต้ผลประโยชน์ประเทศชาติที่ควรเป็นไปอย่างเหมาะสม ยืนยันไม่ใช่มาตรการบังคับ เพื่อลิดรอนเสรีการทำงานใด ๆ อย่างแน่นอน
ส่วนการนำเสนอข่าวของนายจักรภพ เพ็ญแข และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นั้น พ.อ.วินธัย กล่าวว่า คสช.มองว่าอยู่ในดุลยพินิจของแต่ละสื่อ คสช.ไม่ให้น้ำหนักข่าวในเรื่องนี้ เพราะจากข้อมูลที่คสช.มีถือว่าข่าวดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบในภาพรวมเท่าใด แต่เบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบติดตามการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ ภายหลังแถลงจัดตั้งองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน ขอย้ำว่า คสช.ไม่มีการลิดรอนการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน อีกทั้งยังไม่ทราบข้อมูลกรณีมีทหารเข้าไปยังควบคุมกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดี ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน