ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รายงานว่าหลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินลดลง 27,314,031.86 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ช่วง ครม.ยิ่งลักษณ์ 5 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 601,660,181 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินฯ ลดลงเหลือ 574,346,149.14 บาท
ด้านนายธวัชชัย ศิริสธนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินภาคการเมือง ป.ป.ช.เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นนาฬิกาหรูของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีผู้ร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนั้น ความคืบหน้าล่าสุด ป.ป.ช.มีมติให้นำสำนวนคดีดังกล่าวไปรวมกับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน 5 รัฐมนตรีที่ถูกตรวจสอบในโครงการรับจำนำข้าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเคยชี้แจงกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยอ้างว่านาฬิกาเรือนดังกล่าว ซื้อมาและขายออกไปก่อนจะมารับตำแหน่งทางการเมือง แล้วนำเงินไปซื้อเป็นเครื่องประดับแทน จึงไม่ได้แจ้งอยู่ในบัญชีทรัพย์สิน แต่คณะกรรมการ ปปช.เห็นว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่ได้ระบุถึงยี่ห้อนาฬิกาและช่วงเวลาในการซื้อขาย ซึ่ง ป.ป.ช.จะทำหนังสือให้อดีตนายกรัฐมนตรีชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง แต่หากไม่ชี้แจงกลับมา ป.ป.ช.ก็จะใช้ช่องทางอื่นเช่นการเข้าไปตรวจสอบบริษัทที่ขายนาฬิกาเพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจนต่อไป
ส่วนรัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินสูงสุด ได้แก่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 3,976,617 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 พ.ย.55 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 963,545,185 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินตำแหน่งมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 967,521,802 บาท
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินลดลง 11,360,565.32 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย.55 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 48,741,301.33 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินลดลงเหลือ 37,380,736.01 บาท
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,296,152.21 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 394,400,059.40 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็น 396,696,211.61 บาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินลดลง 2,811,040.74 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 ม.ค.55 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 60,485,623.18 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งลดลงเหลือ 57,674,582.44 บาท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินลดลง 3,924,579 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 18,356,728.58 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินลดลงเหลือ 14,432,149.98 บาท
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครธรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ หลังพ้นจากตำหน่งมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 4,635,799.72 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 ส.ค.54 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 11,641,450.41 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งมีบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็น 16,277,550.13 บาท
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินลดลง 136,944.4 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.56 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 171,283,646 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินลดลงเหลือ 171,146,701.60 บาท
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสตร์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ หลังพ้นจากตำแหน่งมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 239,329.03 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย.55 มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 46,822,023.41 บาท แต่หลังพ้นจากตแหน่งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 47,061,352.44 บาท
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม หลังพ้นจากตำแหน่งทรัพย์สินลดลง 5,617,594.99 บาท โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งมีทรัพย์สิน 312,287,946.11 บาท แต่หลังพ้นจากตำแหน่งทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินลดลงเหลือ 306,670,351.12 บาท นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของสมาชิกวุฒิสภาจากการเลือกตั้งที่พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 พ.ค.57 จำนวน 70 คน มีผู้ยื่น 69 คน ยังขาดข้อมูลของนายประดิษฐ์ ตันวัฒนพงษ์ ส.ว.สกลนคร ส่วน ส.ว.จากการเลือกตั้งที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่เมื่อวันที่ 2 พ.ค.57 จำนวน 77 คน มีผู้ยื่น 76 คน ยังขาดข้อมูลของ น.ส.วราภรณ์ อัศวเหม ส.ว.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ กรณี ส.ว.ที่ยังไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ป.ป.ช.จะทำหนังสือสอบถามกลับไปถึง ส.ว.คนดังกล่าว ถึงเหตุผลที่ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ และหลังทำหนังสือรอบญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาในข้อหาจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ โดยจะมีโทษเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี จำคุกอีก 2 ปี
นายธวัชชัย กล่าวว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของ คสช.แต่ในฐานะที่ คสช.ประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพต่าง ๆ นั้น ป.ป.ช.มีสิทธิตรวจสอบได้อยู่แล้ว เพราะต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินตั้งแต่ช่วงเข้ารับตำแหน่ง และยื่นอีกครั้งในช่วงเกษียณ จากนั้น ต้องยื่นอีกครั้งเกษียณอายุราชการไปแล้ว 1 ปี