สำหรับด้านสังคมและการเมืองที่ต้องการให้ คสช.ดำเนินการในวันนี้ พบว่า ร้อยละ 76.8 ระบุจัดระเบียบสังคม ขจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และอาชญากรรม รองลงมาคือร้อยละ 69.8 ระบุเอาจริง เอาจังด้านกฎหมายและการจัดระเบียบสังคม ร้อยละ 68.8 ระบุทำให้การเมืองไม่มีคอรัปชั่น ร้อยละ 59.4 ระบุจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ร้อยละ 57.0 ระบุคอยช่วยลดความขัดแย้งแตกแยกในหมู่ประชาชน และพบว่าต้องการให้ คสช. ทำให้ศาลช่วยประชาชนได้จากเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม (ร้อยละ 56.0) ทำให้การเมืองช่วยลดความขัดแย้งในหมู่ประชาชน (ร้อยละ 55.9) แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ (ร้อยละ 53.5) ทำให้ประชาชนมีการศึกษาสูง มีคุณภาพในราคาที่ประชาชนมีความสามารถจ่ายได้ (ร้อยละ 50.3) ให้บริการประชาชนด้วยความรวดเร็ว ยิ้มแย้มแจ่มใส แก้ปัญหาให้จบได้ดี (ร้อยละ 43.9) และการแก้ปัญหาการค้างาช้าง นอแรด และสัตว์ป่าต่างๆ (ร้อยละ 36.1)
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.4 ของประชาชนที่ถูกศึกษามีความหวังในก้าวต่อไปของประเทศไทย ในขณะที่ร้อยละ 12.6 ยังคงมีความกลัวในก้าวต่อไปของประเทศไทย
ที่น่าสนใจ คือ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของตัวอย่างกรณีบุคคลที่ต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นคำถามปลายเปิด ให้ประชาชนตอบเองโดยไม่มีการชี้นำ ผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 32.1 ระบุต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี รองลงมาคือร้อยละ 13.9 ระบุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 8.4 ระบุนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร้อยละ 8.1 ระบุนายชวน หลีกภัย และร้อยละ 6.9 ระบุนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามลำดับ นอกจากนี้ตัวอย่างยังระบุชื่อบุคคลที่ต้องการให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี อาทิ นายอานันท์ ปันยารชุน /ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ/ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และพันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นต้น