กกต.ชงคสช.แก้ไขกฎหมายเลือกตั้งครั้งใหญ่เพิ่มบทบาทกกต.-ทอนอำนาจการเมือง

ข่าวการเมือง Tuesday July 8, 2014 10:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับผู้บริหารสำนักงานกกต.เพื่อพิจารณาการแก้ไขปัญหาอุปสรรค ตลอดจนข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตามโจทย์ที่ได้จากคณะทำงานด้านการปฏิรูป ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่มีพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมวานนี้(7 ก.ค.) ได้มอบหมายให้นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ลงนาม ก่อนส่งไปยังคณะทำงานด้านการปฏิรูปของคสช.ในเช้าวันนี้

โดยได้มีการนำเสนอข้อดีและข้อเสียทั้งหมด 9 เรื่อง เพื่อส่งให้ คสช.พิจารณา ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่การเสนอว่าต้องแก้ไขให้เป็นอย่างหนึ่งอย่างใด แต่เป็นเพียงการนำเสนอข้อดี-ข้อเสียให้ คสช.ได้พิจารณา ประกอบด้วย

1.กรณีของการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ยังคงให้ที่มาของ ส.ส.มาจากระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และระบบบัญชีรายชื่อ แต่เห็นว่าเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตเลือกตั้ง และอิทธิพลในการเลือกตั้ง ระบบแบ่งเขตควรเปลี่ยนจากเขตเดียวเบอร์เดียวมาเป็นแบบเขตใหญ่

2.ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ควรมีที่มาจากกลุ่มสาขาอาชีพที่หลากหลาย ซึ่งส.ส.ทั้ง 2 ระบบควรมีจำนวนที่ใกล้เคียงกัน

3.ส่วนที่มาของ ส.ว.มีข้อเสนอว่าควรมีทั้ง ส.ว.เลือกตั้ง และ ส.ว.สรรหา

4.ผู้สมัครจะต้องสังกัดพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ดำรงตำแหน่งติดต่อกันไม่เกิน 2 วาระ หรือ 8 ปี และเห็นควรให้กำหนดเพิ่มลักษณะต้องห้ามของผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ว่าต้องไม่เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ในคดีเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง คดียาเสพติด และคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

5.การตั้งพรรคการเมืองจะทำได้ยากขึ้น คือแม้จะมีผู้ก่อตั้ง 15 คน แต่ต้องหาสมาชิกให้ครบ 5,000 คน และตั้งสาขาพรรคใน 4 ภาคให้แล้วเสร็จก่อน

6.ในกรณีที่เกิดเหตุขัดขวางการเลือกตั้ง หรือเหตุสุดวิสัยที่ร้ายแรง ให้กกต.สามารถมีอำนาจในการเสนอเลื่อนขยายวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร หรือกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ได้เอง โดยไม่ต้องมีการปรึกษาหรือขอความเห็นจากนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการการเมืองใช้ตำแหน่งหน้าที่หาเสียงเอาเปรียบฝ่ายตรงข้าม

7.เมื่อมีการยุบสภา ให้คณะรัฐมนตรีพ้นไปโดยปริยาย ไม่ต้องเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ และเห็นควรให้ปลัดกระทรวงรักษาการแทน

8.เพิ่มอำนาจให้ กกต.สามารถเรียกเอกสารหรือเชิญบุคคลมาให้ถ้อยคำต่อ กกต.ได้ และหากไม่มาก็ให้มีบทลงโทษ

9.กำหนดให้ศาลใช้ข้อมูลที่ กกต.เสนอให้พิจารณาสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นหลัก โดยไม่นำระบบกล่าวหาของกฎหมายอาญามาใช้ เนื่องจากที่ผ่านมาพยานกลับคำให้การในชั้นศาล ทำให้คดีเลือกตั้งจำนวนมากที่กกต.ไม่สามารถเอาผิดได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ