ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเห็นว่าการสืบพยานเพิ่มเติมอาจทำให้การพิจารณาคดีเกิดความล่าช้านั้น เห็นว่าการวินิจฉัยคดีดังกล่าวของ ป.ป.ช.มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าจะดำเนินการในเดือนกันยายน ดังนั้นหาก ป.ป.ช.จะทำการไต่สวนพยานจำนวน 8 ปากก็จะไม่ทำให้คดีเกิดความล่าช้าแต่อย่างใด แต่กลับเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้กล่าวหาในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ นอกจากนี้การตรวจสอบโกดังข้าวที่พบว่ามีข้าวสูญหาย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และไม่ได้มาตราฐานนั้น ในข้อเท็จจริงเจ้าของโกดังที่กระทรวง พาณิชย์ทำสัญญาเช่าเพื่อเก็บข้าวจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
ขณะที่ องค์การคลังสินค้า( อคส.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ยังมีความเห็นที่แตกต่าง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับจำนวนข้าวที่คงค้างอยู่ในสต๊อกจำนวน 2.977 ล้านตัน นอกจากนี้ยังมีประเด็นในเรื่องการคิดค่าเสื่อมราคาที่มีการคิดที่ไม่เป็นไปตามหลักสากล
นอกจากนี้ระยะเวลาในการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.57 และ ป.ป.ช.มีมติเมื่อวันที่ 19 ก.พ.57 กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมเวลาในการไต่สวนเพียงแค่ 21 วัน ซึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้รับการไต่สวนจากคณะกรรมการชุดดังกล่าว ประกอบกับโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการขนาดใหญ่มีหน่วยงานราชการเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ดังนั้นจึงเห็นว่าการไต่สวนของคณะกรรมการไม่เป็นไปตามหลักการไต่สวนความเพื่อให้ได้ข้อท็จจริง และไม่เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ ถูกกล่าวหา