ล่าสุด สนช.มารายงานตัว ในช่วงเช้าวันนี้ รวมเป็น 170 คนแล้ว เหลืออีก 28 คนที่ สนช.จะรายงานตัวครบ 198 คน โดยผู้ที่มารายงานตัวแล้ว อาทิ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ, พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ อดีตประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม, นายสมชาย แสวงการ อดีต ส.ว.เป็นต้น
ด้านนายสมชาย แสวงการ กล่าวถึงตัวเก็งประธาน สนช.ทั้ง 2 คน คือนายพรเพชร วิชิตชลชัย และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นั้น มองว่ามีความเหมาะสมทั้งคู่ เพราะมีความรู้และประสบการณ์ด้านกฎหมาย เชื่อว่าหากใครได้ตำแหน่งอีกคนก็พร้อมให้การสนับสนุน โดยจะไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน เนื่องจากทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันที่จะทำงานเพื่อประเทศ มากกว่าตำแหน่งหน้าที่
พร้อมปฏิเสธว่า อดีตสมาชิกวุฒิสภามีการล๊อบบี้ให้นายสุรชัย เป็นประธาน สนช.อย่างแน่นอน
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็มีความเหมาะสมที่จะนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะผลการทำงานที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดเจน
นายสมชาย ยังกล่าวว่า ที่ประชุม สนช.น่าจะหยิบยกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 มาพิจารณาเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ส่วนกรณีการถอดถอนนักการเมืองตามมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุรจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)นั้นขึ้นอยู่กับประธาน สนช.ว่าจะบรรจุระเบียบวาระพิจารณาหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าสามารถทำได้เพราะรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้ให้อำนาจ สนช.ในการทำหน้าที่แทน ส.ส. และ ส.ว.