พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานด้านการเมือง
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
นายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นประธานด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ เป็นประธานด้านการศึกษา
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นประธานด้านเศรษฐกิจ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นประธานด้านพลังงาน
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ เป็นประธานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
พล.อ.นพดล อินทปัญญา เป็นประธานด้านสื่อสารมวลชน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานด้านสังคม และ
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นประธานด้านอื่นๆ
ทั้งนี้ กกต.จะเร่งสรุปข้อมูลและส่งรายชื่อผู้สมัครในแต่ละด้านให้กับคณะกรรมการสรรหาฯ พิจารณาให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด ส่วนการวินิจฉัยชี้ขาดคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นอำนาจหน้าที่ของ คสช.และคณะกรรมการสรรหาฯ ที่จะพิจารณา แต่ทาง กกต.จะตรวจสอบรายละเอียดเบื้องต้น พร้อมแนบรายละเอียดประกอบการพิจารณา สำหรับการประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมการสรรหาฯ รวมถึงสถานที่ประชุมขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาฯ แต่ละด้านจะพิจารณา
ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญัติแห่งชาติ(สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาฯ ได้กำหนดกรอบการคัดเลือกโดยจะเน้นผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ผู้มาทำหน้าที่ต้องครอบคลุมในทุกระดับ มีความหลากหลาย และมีความเท่าเทียมเรื่องเพศ ผู้ได้รับการสรรหาจะต้องพร้อมทำงานที่หนักขึ้น หากมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวนมาก จะต้องมาดีเบต เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาฯ โหวตอีกครั้ง และการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ อาจจะเพิ่มจำนวนครั้งของการประชุมเพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสม และจะตรวจสอบคุณสมบัติอย่างรอบคอบ และขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดในใจ และไม่มีล็อคสเป็ค รวมถึงไม่เปิดโอกาสให้เข้ามาล็อบบี้เป็น สปช.ได้
ขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการสรรหา สปช.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน กล่าวว่า การพิจารณาจะคำนึงถึงภาคส่วนและความรู้ความชำนาญของผู้สมัคร โดยไม่มีการล็อกสเป็ค ส่วนกรณีที่ผู้สมัครบางคนสนิทกับคณะกรรมการสรรหาฯ จะให้งดออกเสียง ทั้งนี้หวังว่า สปช.จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปได้ และเป็นประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยในการปฎิรูป และไม่อยากให้การปฏิรูปครั้งนี้เป็นเหมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ