โดยศาลอุทธรณ์กลางได้อ่านคำพิพากษาของผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ แผนกคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมี 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1 อำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งว่ามีอำนาจในการให้ใบเหลืองแก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือไม่ โดยศาลฟันธงแล้วว่ามีอำนาจ ในการระงับยับยั้งการเลือกตั้งที่ขัดต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น
ส่วนประเด็นที่ 2 ศาลได้พิจารณาประเด็นการปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บริเวณวงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี และที่บริเวณลานคนเมือง ทั้ง 2 ครั้งใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัคร คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ คู่แข่ง นั้นทำให้มีผลต่อคะแนนเสียงต่อคู่แข่งหรือไม่ ซึ่งวินิจฉัยแล้วไม่ผิด
ประเด็นที่ 3 การปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นมีความสุจริตหรือไม่และผิดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือไม่ ศาลชี้ไม่มีมูลและยกคำร้อง เนื่องจากการปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อาศัยข้อมูลเก่าตามที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) และนำมาจากข้อมูลจากสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ประชาชนรับทราบกันอยู่แล้ว ศาลจึงยกคำร้องทั้งหมด
คดีสืบเนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้มีคำสั่งจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่ จากกรณีที่ประชุม กกต.มีมติ 3 ต่อ 2 เสียง ให้ใบเหลืองแก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ หลังมีผู้ร้องเรียนว่ามีผู้สนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ เมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.วันที่ 3 มี.ค.56 ได้ปราศรัยโจมตีให้ร้ายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม
ผลคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวถือเป็นสิ้นสุด และม.ร.ว.สุขุมพันธ์ สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ตามเดิม