นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการสวมรอยขายข้าวแบบ G to G โดยเตรียมจะสรุปผลการสอบสวนคดีในเร็ววันนี้ และจะทยอยส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนต่อไป แต่ไม่แปลกใจที่อัยการสูงสุดระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ เพราะยังไม่เห็นข้อมูลในมือของ ป.ป.ช.ครบทั้งหมด
"ป.ป.ช.พอใจพยานหลักฐานครั้งนี้มาก ไม่มีเลื่อนลอยเด็ดขาด เป็นของจริงทั้งหมด...นอกเหนือจากคุณยิ่งลักษณ์ มีอีกหลายบุคคลตามมา" นายวิชา กล่าว
ทั้งนี้ นายวิชา กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้ไต่สวนกรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวก ในข้อหาทุจริตกรณีรับจำนำข้าว โดยได้ขยายการแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลและบริษัทค้าข้าวอีกเป็นจำนวนมากนั้น ขณะนี้การไต่สวนมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยมีพยานหลักฐานเชื่อมโยง สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีก 1 ราย ได้แก่ พันตรี วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตผู้ช่วยเลขานุการ รมช.พาณิชย์ และอดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์
ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมสำหรับบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งมีมติกันบุคคลที่ถูกกล่าวหาจำนวนหนึ่งซึ่งร่วมมือให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลและหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงเอาผิดแก่ตัวการสำคัญในคดีนี้ได้
พร้อมกันนั้น นายวิชา ยังระบุว่า ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช.อยู่ระหว่างรอหนังสือแจ้งข้อไม่สมบูรณ์จากสำนักงานอัยการสูงสุด หลังจานั้นจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนอัยการสูงสุดและคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 14 วัน เพื่อพิจารณาดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อไม่สมบูรณ์ให้สมบูรณ์แล้วส่งให้อัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีต่อไป สำหรับประเด็นเรื่องการรวบรวมงานวิจัยโครงการนโยบายข้าวของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่ยังส่งให้ไม่ครบถ้วนนั้น ขอเรียนว่ารายงานวิจัยของทีดีอาร์ไอ เป็นเพียงการยกตัวอย่างว่ามีช่องทางการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง ไม่ได้หยิบยกรายงานวิจัยดังกล่าวมาเป็นเอกสาร
หลักฐานในการชี้มูลความผิดนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาจากการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ได้จากการไต่สวนข้อเท็จจริงในขณะเกิดเหตุ และเมื่อมีการส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดก็ระบุว่ามีรายงานวิจัยดังกล่าวอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาหากพนักงานอัยการเห็นว่าสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงที่ส่งไปยังขาดเอกสารหลักฐานรายการใด ก็สามารถประสานเพื่อขอให้มีการส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมได้โดยไม่จำเป็นต้องตั้งเป็นข้อไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี หลังจากมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมแล้วจะมีการประชุมพิจารณาร่วมกันว่าในสำนวนมีข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วหรือไม่ เพียงพอแล้วหรือไม่ เพื่อกำหนดแนวทางการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้ว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จเมื่อใด แต่จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นคดีสำคัญ และขอเรียนยืนยันว่าสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้มีความรัดกุมและรอบคอบ