นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการ ครม. และกระทรวงการคลังจะบรรยายถึงข้อกำหนดการประชุม ครม.ให้แก่รัฐมนตรีรับทราบ พร้อมกับการบรรยายสิทธิประโยชน์ เรื่องเงินเดือนและค่าตอบแทนของรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง และรายละเอียดการแต่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในโอกาสเข้าร่วมงานพระราชพิธีหรือรัฐพิธี ที่ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล
นายวรวิทย์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้จะต้องชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 30 วัน หลังจากเข้าถวายสัตย์ฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 ต.ค. หลังจากนั้นทางป.ป.ช.จะเปิดเผยต่อสาธารณะชนภายใน 30 วัน ซึ่งน่าจะไม่เกินวันที่ 2 พ.ย.นี้ ที่จะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดได้
พร้อมย้ำได้ว่าคณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งก็เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นในบริษัทเอกชนเกินร้อยละ 5 แต่หากรัฐมนตรีคนใดมีความประสงค์จะถือหุ้นเกินร้อยละ 5 สามารถทำได้ แต่ต้องแจ้งให้ ป.ป.ช. ทราบภายใน 30 วัน หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้ง และจะต้องโอนหุ้นให้นิติบุคคลที่มีอำนาจบริหารทรัพย์สินแทนภายใน 90 วัน และแจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบภายใน 10 วันหลังโอนหุ้นเสร็จสิ้น นอกจากนี้ข้าราชการการเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งก็ต้องดำเนินการเหมือนกับรัฐมนตรี
สำหรับคู่สมรสนอกกฎหมายถ้าสืบทราบว่ามีการถือทรัพย์สินแทนรัฐมนตรีก็เข้าข่ายต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยเช่นกัน พร้อมยืนยันป.ป.ช.ได้ใช้มาตรฐานการตรวจสอบเช่นเดียวกับรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมา
ส่วน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กฎหมายไม่ได้ระบุให้ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง จึงมีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอยู่แล้ว ส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)นั้น เตรียมที่จะเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในวันที่ 3 ต.ค.นี้
ด้านนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามขั้นตอนของกฏหมาย ครม.จะต้องแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน หลังจากวันที่เข้าถวายสัตย์ฯ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 ต.ค.นี้
ส่วนช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานประชุมชี้แจงและมอบนโยบายรัฐบาลให้หัวหน้าส่วนราชการระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก