ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการถอดถอนอาจค้านกับแนวทางสร้างความปรองดองนั้น นายสุรชัย ยืนยันว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นต้องดำเนินการตรวจสอบจนถึงที่สุด มิเช่นนั้นประชาชนอาจไม่ยอมรับ เช่น กรณีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ประชาชนไม่ยอมรับจนเป็นที่มาของปัญหาทางการเมือง อย่างไรก็ตามส่วนตัวยอมรับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องช่วยกันพิจารณา
นายสุรชัย ในฐานะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) สายการเมือง ยังกล่าวถึงการดำเนินการสรรหา สปช.ที่ผ่านมาว่า เป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีการล็อกสเปค และใช้วิธีคัดเลือกด้วยการลงคะแนนลับ ส่วนจะมีการต้องเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ผ่านการสรรหารอบแรกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ส่วนตัวเห็นว่ามีทั้งข้อดีคือโปร่งใสตรวจสอบได้ แต่ข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดการวิ่งเต้นเพื่อให้ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย
"เราคัดเลือกเข้มข้น กรรมการสรรหาด้านการเมือง 7 คน ใช้วิธีลงคะแนนลับ วิเคราะห์ให้รายชื่อหลากหลาย จึงยืนยันไม่มีการล็อกสเปค คนที่ผ่าน สมควรเป็นตัวแทนประชาชนในการปฏิรูปประเทศ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่ที่ คสช. จะไปคัดเลือก" นายสุรชัย กล่าว