ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรแม่สอด ซึ่งเป็นประตูการค้าหลักที่มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนสูงสุดของไทย อีกทั้ง เป็นเมืองหน้าด่านสำหรับรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งได้มีการลงทุนในภูมิภาคที่เชื่อมโยงเส้นทางในพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกำลังมีการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเพื่อรองรับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก(East–West Economic Corridor)เชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคม และขนส่งระหว่างประเทศไทยกับเมียนมาร์ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนในภาคเกษตรกรรม และภาคอุตสาหกรรมของประเทศ และเพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการใช้เส้นทาง สามารถรองรับการจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปยังสหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด เพื่อติดตามผลการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคในการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดให้มีการกระตุ้นการค้าการลงทุนบริเวณแนวชายแดนและบริเวณพื้นที่ใกล้แนวชายแดนตามโครงการ Social business หรือการประกอบการเพื่อตอบสนองต่อสังคม อีกทั้งยังเป็นสหกรณ์ต้นแบบในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมโดยวิธีการสหกรณ์ และสามารถเชื่อมโยงกับขบวนการสหกรณ์กับประเทศเมียนมาร์ ภายใต้ความสัมพันธ์ในลักษณะบ้านพี่เมืองน้อง (Sister city) และสามารถช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม ให้กับชุมชนในเขตนิคมสหกรณ์แม่สอด และอำเภอใกล้เคียง ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการต่าง ๆ อีกด้วย
ในเวลา 14.55 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางไปยังศูนย์การแสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเทศบาลแม่สอดอีกครั้ง เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ