"เรื่องของความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็มีบางคนอยู่ในห้องไม่พูด ไม่ถาม แต่พอออกนอกห้องก็มาบอกว่าไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ได้พูด ไม่ได้ถาม หัวใจสำคัญวันนี้คือการขับเคลื่อนโยบาย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ นโยบาย การขับเคลื่อน และผู้ปฏิบัติ"
เรื่องยุทธศาสตร์จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ในปีนี้เพราะคิดไว้อยู่แล้ว แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เสนอมา เรื่องใดอะไรที่ตรงใจตนเองก็ให้รัฐบาลสานต่อ ไม่ใช่ว่าจะไปกำชับให้ต้องทำแบบไหน และตนเองไปเสนอเองไม่ได้ จะกลายเป็นว่ามากล่าวหาว่าตนเองอยากอยู่ในอำนาจ อยู่เพื่อผลประโยชน์
"วันนี้มาบอกว่าผมอยากอยู่ จะอยู่เท่าโน้นเท่านี้ อยู่กี่วันกี่เดือนกี่ปี ผมไม่ได้อยากอยู่สักวันจะบอกให้ เห็นใครบอกว่าเป็นนายกฯ จะดี เป็นรัฐมนตรีแล้วสนุก แต่สำหรับผมกลับบ้านก็มีแต่ความทุกข์ เดี๋ยวก็ไลน์มาแล้ว ต้องสั่งโน่นนี่น่นสารพัด คนใต้บังคับบัญชาก็ทำไป ผมยอมรับว่าไม่มีความสุขเลยจริงๆ ดังนั้นวันนี้เราจะต้องฟันฝ่าท้าทายสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงให้ได้ ดูว่าวันนี้สังคมโลกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน เราต้องไปให้ทันเขาให้ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลหน้าที่ต่อสังคมโลก ทำหน้าที่ต่ออาเซียน ทำหน้าที่ต่อประเทศไทย วันนี้เราจะทำอย่างไรให้คนไทยมีรอยยิ้ม มีความสุขและไม่โง่ ไม่ใช่มีความสุขแล้วโง่ ซึ่งขณะนี้เรากำลังเร่งรัดการศึกษาที่จะทำให้คนมีความสุข ต้องมีการวางโรดแมพทุกเรื่อง ตามกรอบระยะเวลาว่าปัญหาแต่ปัญหาจะใช้เวลาเท่าไหร่ แก้ปัญหาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ต้องมีความชัดเจน
ส่วนการเร่งรัดเรื่องพลังงาน ซึ่งเราจำเป็นต้องโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่ จ.กระบี่ เพราะมีโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว และเป็นพื้นที่ติดทะเล สามารถขนส่งถ่านหินได้สะดวก แต่ก็มาบอกว่าทำไม่ได้ เพราะจะทำชาวบ้านเดือดร้อน เลยบอกว่าจะไปสร้างที่ไหนก็ไป ก็ให้รัฐมนตรีไปดูอยู่แต่จะไปสร้างที่ไหนยังไม่รู้เลย ให้ทุกคนเข้าใจเรื่องไฟฟ้าเป็นเรื่องความมั่นคง เพราะเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานทั้งหมด ที่ผ่านมาราชการก็รับนโยบายไปปฏิบัติต่อก็ทำไม่ได้ วันนี้เรากำหนดอนาคตของประเทศให้ประชาชนเห็น ทุกคนจะได้รู้อนาคตของตัวเอง ไม่ใช่ให้ใครมาชักนำ ไม่ใช่มารวมกลุ่มต่อต้านขัดขวางทุกอย่าง แล้วใครจะทำอะไรให้ได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจต้องมีความเข้มแข็งจากภายในก่อน ทั้งจากท้องถิ่นและภูมิภาค การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หรือคนไทยไปลงทุนต่างประเทศ เพราะเราต้องแชร์กันทั้งหมด ส่วนอาเซียนต้องเป็นไทยบวกหนึ่ง พม่าบวกหนึ่ง เพราะเรานำคนเดียวไม่ได้ เราต้องนำด้วยกัน เพราะบางอย่างเขาทำไม่ทันเรา ถ้าไม่ยกเขาขึ้นมาก็จะเป็นบ่อเกิดความขัดแย้ง รวมทั้งการจัดเขตเศรษฐกิจต้องพึ่งพาศักยภาพชายแดนและเพื่อนบ้าน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ไทยได้เปรียบหลายประเทศคือความเป็นไทย ประเทศมีความสวยงาม ยิ้มแย้มแจ่มใส แม้ค่าแรงจะสูง แต่รอยยิ้มก็พอทำให้อยู่ได้ แม้กำไรจะน้อย แต่เราจะต้องปรับแก้เรื่องแรงจูงใจและสิทธิภาษี ไม่เช่นนั้นนักลงทุนเขาย้ายฐานการผลิตหนีหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงยุทธศาสตร์ด้านการต่างประเทศว่า ต้องรีบสร้างแผน ต้องทำงานเชิงรุก เพราะวันนี้กระทรวงต่างประเทศต้องทำงานเชิงรุกต้องขายของให้ด้วย ทุกสถานทูตต้องมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ การค้าการส่งออก การเกษตร การแปรรูป ไม่ใช่ทำแค่งานพบปะหาหรือเยี่ยมเยือน
ปัญหาของประเทศมีมากมายเป็นร้อยเรื่องซึ่งสามารถแก้ไขได้พอสมควร ทั้งปัญหาความรุนแรง ปัญหาความไม่เป็นธรรม ปัญหาการทุจริต ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาการศึกษา แม้จะแก้ปัญหาไปแล้ว แต่ปัญหาเดิมๆ พร้อมจะกลับมาตลอดเวลา
ส่วนความเชื่อมโยงและพลังการผลิตทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งหมดต้องไปด้วยกัน เพราะทั้งหมดคือยุทธศาสต์ที่ทำให้ประเทศชาติมั่นคง เมื่อมั่นคงก็ทำให้การค้าการลงทุนไปได้ดีจนไปสู่การมั่งคั่ง และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนก็ต้องสร้างทายาทไว้เช่นการสร้างจิตสำนึก การสร้างค่านิยม 12 ประการ ดังนั้นคนที่อยู่ปัจจุบันจะต้องคิดว่าในอนาคตจะทำให้ลูกหลานอยู่ได้อย่างไรเพื่อสร้างทายาทที่เป็นคนดีมีคุณธรรมและศีลธรรม และสุดท้ายการมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามอบอำนาจเด็ดขาดให้กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมานาน แต่วันนี้เมื่อเข้ามาทำงานก็ไม่เคยต่อต้านความเป็นประชาธิปไตย แต่บทบาทที่ต้องทำวันนี้คือต้องเดินหน้าประเทศไปให้ได้ สร้างความไว้วางใจและเชื่อใจซึ่งกันและกัน วันนี้มีปัญหาว่าร่างรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับในวันที่ 6 ก.ย.58 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนว่าจะรับหรือไม่รับ รัฐธรรมนูญของประเทศต้องเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล วันนี้จะรับหรือไม่รับก็ต้องรอดู
"วันนี้เรื่องรับหรือไม่รับก็มีข่าวเข้ามาสองสาย สายหนึ่งบอกนายกฯรับ อีกสายบอกว่านายกฯไม่รับ ซึ่งยังไม่รู้เลยว่าสองสายนี้มาจากใครยังไม่รู้เลย สรุปว่าผมเหยียบเรือสองแคมอย่างนั้นหรือ ซ้ายก็ได้ ขวาก็ได้ ผมไม่ได้มีอะไรกับใครอยู่แล้วและไม่เคยไปขอหรือสั่งอะไรกับใคร ขอแค่ 5 ปีให้เดินยุทธศาสตร์ชาติได้ แค่นี้ก็ยังให้กันไม่ได้ วันนี้ถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อ คือการทำประชามติ ออกกฎหมายลูก และเลือกตั้งในปี 2559 ยืนยันว่า คสช.และผมไม่ได้ประโยชน์อะไร ที่ผ่านมามีแต่ปวดหัวตลอดเวลา มีการเสนอโครงการต่างๆเข้ามาตลอดเวลา ถ้าได้ทำมาตั้งแต่เดิมป่านนี้ประเทศไทยเจริญไปไกลถึงดาวไหนๆแล้ว แต่วันนี้ยังเป็นแค่บ้องไฟอยู่เลย วันนี้การขับเคลื่อนสำคัญที่สุดทั้งภาครัฐ เอกชน ตำรวจ ประชาชน และมีการเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่งถือว่าวันนี้การเมืองเราสร้างสรรค์แล้ว มีคนบอกว่าผมเป็นนักการเมืองแล้วแต่ยืนยันว่าไม่ใช่ ผมยังเป็นนักการทหาร เพียงแต่เข้ามาทำหน้าที่นัการเมืองบริหารงานของภาครัฐเท่านั้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนนโยบายเร่งรัดการปฏิบัติและบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อาจจะเป็นเพราะประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีพรรคการเมืองเข้ามาแบ่งแยกกระทรวงกันบริหาร ทำให้การทำงานทับซ้อนกันต่อไปไม่ได้ อย่างงบประมาณปี 2557-2558 ก็ต้องบูรณาการร่วมกันโดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้การทำงานครอบคลุมชัดเจน ซึ่งปัญหาก่อนหน้านี้ที่พบ คือไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง และฝ่ายการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว ซึ่งเป็นห่วงส่วนราชการ หากตนเองไม่อยู่จะทำกันอย่างไร ข้าราชการเองก็ต้องเตรียมตัว เช่น การแต่งตั้งวางตัวบุคคลให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องกฎหมายก็ต้องมีความขัดเจนอย่าให้คลุมเครือ อย่าทำให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ ต้องยึดกฎหมายเดียวกัน ข้าราชการเป็นส่วนสำคัญเราสามารถช่วยได้ในการสร้างจริตสำนึกให้ประเทศชาติมั่นคง
"ให้นักการเมืองคิด ผมไม่ใช่นักการเมือง คนที่อยู่กับผมก็ไม่ใช่นักการเมือง ทั้งที่เป็นพลเรือน ทั้งข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และบางอย่างที่สร้างความขัดแย้งสร้างความสุดโต่ง พวกที่คิดว่าว่ามันต้องแบบนั้นต้องแบบนี้การคิดแบบนี้คือการสร้างวัฒนธรรมที่ผิด ผมไม่ได้บอกว่าต้องเชื่อทุกอย่าง แต่เราต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ที่ผ่านมาเคยเห็นนักการเมืองมาพูดแบบนี้หรือไม่ ผมพูดได้ทุกเรื่องเพราะผมไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ใครที่จะอยู่เบื้องหลังอยู่ใต้เท้า ผมไม่มี จำไว้ว่าทุกคนในนี้ถ้าอยากเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในอนาคตอย่าทำในที่สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าทำวันนี้ วันหน้าทุกคนจะเสียความภาคภูมิใจ ไปเป็นนายเขาก็ไม่มีใครนับถือ เพราะเขาก็รู้เช่นเห็นชาติกันหมด ถึงมีตำแหน่งก็ยังไม่มีอะไร แล้วสุดท้ายวันหน้าเราจะเป็นคนที่สร้างประวัติศาสตร์อันเลวร้ายให้ประเทศ ให้ลูกหลาน วันนี้มีปัญหาเราต้องช่วยกันแก้ ส่วนยุทธศาสตร์รัฐบาลจะเร่งเดินหน้ายุทธศาสตร์เหล่านี้ 20 ปี แต่พอผมจะทำแค่ 5 ปีก็บ่นกันแล้ว ที่ผมบอกว่าจะทำยุทธศาสตร์ 20 ปีเขาก็ไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ที่จะมีความขัดแย้งเขาบอกว่าต้องปฏิรูปต้องปรองดอง วันนี้เขากลับมาถามว่าเราปฏิรูปอะไร บอกว่าวันนี้รัฐบาลเข้ามาไม่ปฏิรูปอะไรเลย เขาไม่ได้ทำกับผมนี่ ผมยอมรับว่าเหนื่อย เหนื่อยกันทั้งรัฐบาล เหนื่อยกันทุกคนไม่เคยได้หยุดพัก ใครที่มาอ้างว่าได้เงินมากมาย ไปหามาแล้วมาบอกผม วันนี้ไม่ใช่เวลาที่มันจะมาทะเลาะกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มีปัญหาเรื่องงบประมาณภาครัฐ เรื่องภาษี และการทุจริตคอร์รัปชั่น โครงสร้างเศรษฐกิจอ่อนแอ ความสามารถแข่งขันน้อย ก่อนเข้ามาตนเองไม่เคยรู้ว่ามีปัญหา เพราะเห็นรัฐบาลบริหารมีเงินทองเยอะ ใช้ในส่วนที่ผิดกฎหมายก็เยอะ สิ่งที่รั่วไหลออกไปทำให้ประเทศติดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ส่วนคนรวยก็ไปอยู่ต่างประเทศตั้งหลายคน แต่ใช้เงินไม่ได้ทั้งหมดนี้ต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกต่อต้านการโกง
"วันนี้มีการใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อทำร้ายกันมาก ผมไม่ยอมอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเขาอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้กำลังหามาตรการอยู่ ถ้าอยู่ต่างประเทศแล้วยังทำอยู่ต่อไป ทั้งคลิปหรืออะไร อยู่ได้อยู่ไปวันนี้ก็ถอนพาสปอร์ตแล้วก็ยังทำอยู่ พวกนี้คิดจะไม่กลับมาแล้ว คิดทำลายให้หมดประเทศไทย อย่าอยู่เป็นสุขกันเลย ก็คิดกันแบบนี้พวกวางระเบิดทั้งหลายในช่วงก่อนหน้านี้ ไอ้คนเหล่านี้เป็นคนใจร้าย แสดงว่าบ้านเมืองเรายังไม่สงบ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกจึงต้องขอความร่วมมือกับทุกท่าน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว