"เรื่องไหนก็ได้ก็คุยกันไปก่อน รัฐบาลมีเอกภาพอยู่แล้ว แต่ทางโน้นมีหลายกลุ่ม ก็ต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันให้ได้ก่อน อย่ามาบอกให้ผมรับข้อเสนอ มากดดันไม่ได้ เรื่องคอขาดบาดตายอย่างนี้มันล่อแหลม ถ้ารับแล้วใครจะรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมระบุวว่า กลุ่มที่มาพูดคุยกันก็ต้องแสดงเจตนารมย์ที่จะให้เกิดความสงบ ยังไปรับปากอะไรไม่ได้ ถ้าทุกคนต้องการทำเพื่อประชาชน ถ้าจริงใจก็จบ ไม่สร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เชิญตัวนายพิชัย นริพทพันธุ์ และนายการุณ โหสกุล นักการเมืองไปปรับทัศนคติว่า เพราะคงได้พิจารณาแล้วว่าออกมาพูดหรือแสดงความเห็นทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน ซึ่งที่ผ่านมาได้ปล่อยปละละเลยให้มากเกินไป ส่วนจะมีใครอีกบ้างนั้นคงต้องดูว่าทำอะไรให้บ้านเมืองไม่สงบหรือไม่
ส่วนกรณีผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดได้ซัดทอดว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)รับสินบนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้รับผิดชอบกำลังสอบสวนไปตามพยานหลักฐานและให้ความเป็นธรรม หากมีเหตุจำเป็นอะไรทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอเรื่องมาให้พิจารณา และต้องหาเครื่องมือมาใช้มากกว่านี้ เนื่องจากพื้นที่ชายแดนมีระยะทางยาวกว่า 5 พันกม.