รายงานข่าวจากรัฐสภา แจ้งว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมเพื่อดำเนินกระบวนการพิจารณาถอดถอนนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบมาตรา 56(1) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
โดยที่ประชุมฯ เห็นชอบให้กำหนดวันแถลงเปิดสำนวนคดีของ ป.ป.ช.ผู้กล่าวหา และการแถลงคัดค้านของนายสมศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหา ในวันที่ 29 ต.ค.58 เวลา 10.00 น. โดยให้สมาชิก สนช.ยื่นญัตติกำหนดประเด็นซักถามคู่กรณีได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ต.ค.58 เวลา 12.00 น.
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 7 รายการ โดยพยานหลักฐานรายการที่ 1 และ 2 เป็นภาพถ่ายทางอากาศการสำรวจภูมิประเทศและแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่ขอจากกรมแผนที่ทหาร ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ยื่นหลักฐานดังกล่าวเพราะไม่รู้ว่ามีภาพถ่ายลักษณะนี้ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าบ้านดังกล่าวก่อสร้างในระยะเวลาใด เนื่องจากสำนวนของ ป.ป.ช.ไม่มีในส่วนนี้ ส่วนพยานหลักฐานรายการที่ 3-6 เป็นบันทึกถ้อยคำของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นอดีตอธิบดี 3 กรม คือ กรมสามัญศึกษา สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ และกรมอาชีวะศึกษา ซึ่งเกี่ยวข้องวงเงินงบประมาณสูงและกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ได้เชิญบุคคลเหล่านี้ให้ปากคำ
และพยานหลักฐานรายการที่ 7 เป็นการให้ปากคำของ พ.ต.ท.ก้องกาญจน ฉันทปรีดา สถาปนิกผู้ออกแบบบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ได้อนุมานการก่อสร้างบ้านดังกล่าวว่าอยู่ในระยะเวลา ยังขาดรายละเอียดว่าบ้านหลังดังกล่าวก่อสร้างและเสร็จเมื่อไหร่ ซึ่งคำให้การของสถาปนิกจะช่วยให้เกิดความชัดเจนว่าผู้ถูกกล่าวหาได้บ้านหลังดังกล่าวมาก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี หรือหลังรับตำแหน่งรัฐมนตรี
ด้านนายณรงค์ รัฐอมฤตกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า พยานหลักฐานในรายการที่ 1-6 ทาง ป.ป.ช.เห็นว่าเป็นเอกสารที่อยู่นอกเหนือการไต่สวนของ ป.ป.ช.และผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยอ้างเพื่อให้ ป.ป.ช.สอบ แม้ ป.ป.ช.จะให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหานำพยานหลักฐานมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาถึง 17 ครั้งก็ตามจึงไม่ได้อยู่ในสำนวน ดังนั้นการพิจารณาก็ควรยึดสำนวนของ ป.ป.ช.เป็นหลัก ส่วนรายการที่ 7 ที่ผ่านมาได้สอบสวนพยานปากนี้ตามขั้นตอนแล้วจึงไม่ขัดข้องที่จะให้เพิ่มพยานในส่วนนี้ได้
หลังจากนั้นที่ประชุม สนช.ได้ลงมติการพิจารณาเพิ่มพยานหลักฐานทั้ง 7 รายการ โดยเห็นชอบให้นายสมศักดิ์เพิ่มพยานหลักฐานในรายการที่ 1-2 ด้วยคะแนน 90 ต่อ 70 งดออกเสียง 6 และให้เพิ่มพยานหลักฐานรายการที่ 7 ด้วยคะแนน 123 ต่อ 39 งดออกเสียง 5 แต่ไม่เห็นชอบให้เพิ่มพยานหลักฐานในรายการที่ 3-6 ด้วยคะแนน 84 ต่อ 79 งดออกเสียง 4