สำหรับการทำงานในห้วงเวลาใหม่นั้นตนเองได้สั่งการให้ทุกคนเตรียมการทำงานไว้ให้พร้อม โดยให้ทุกกระทรวงบูรณาการการทำงานร่วมกัน และหารือกิจกรรมสำคัญต่างๆ รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณในปี 2559 ที่ต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่า ทุกกระทรวงจะต้องวางแผนงานให้สอดคล้องกับรายไตรมาสให้ได้ เพื่อนำเงินออกมาใช้จ่าย ที่ผ่านมาอาจติดขัดปัญหาบ้าง ดังนั้นวันนี้ต้องเตรียมการล่วงหน้าให้รวดเร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ทุกกระทรวงไปศึกษารายละเอียดของแผนการปฏิรูปที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ได้จัดทำไว้ เพื่อที่จะได้จัดทำแผนว่าเรื่องใดสามารถทำได้ทันทีและเรื่องใดยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งต้องส่งแผนมายังรัฐบาลและต้องส่งไปยังสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)ด้วย เพื่อปรับการทำงานให้ตรงกัน โดยจะมี 3 ส่วน คือ สามารถดำเนินการได้ทันที, รอกฎหมาย โดยต้องส่งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และดำเนินการได้ภายหลังจากมีรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องการปฏิรูปโครงสร้าง
"ต้องการสร้างความเข้าใจว่าปฏิรูปเขาทำกันอย่างไร การบริหารราชการแผ่นดินและร่วมกับการปฏิรูปต้องทำอย่างไร ขณะนี้เรากำลังมียุทธศาสตร์ชาติอยู่ ยุทธศาสตร์ชาติจะครอบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมด ซึ่งไม่ได้ครอบเพื่อใครเลย ครอบเพื่อคนไทยทุกคน ไม่ได้ครอบเพื่อผม ครอบรัฐบาลใหม่ เพราะเป็นกิจกรรมเป็นยุทธศาตร์ที่ต้องเดินหน้าประเทศไป 20 ปี และจะมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสอดคล้องกันไป หลังจากผมออกไปแล้วก็จะมีการปฏิรูปต่อไป มียุทธศาสตร์ชาติต่อไป ก็ได้ย้ำในที่ประชุมไปแบบนี้ เพื่อความเข้าใจตรงกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบภาพถ่ายเป็นที่ระลึกให้กับข้าราชการที่เกษียณอายุ และสั่งการให้แต่ละกระทรวงสรุปผลการดำเนินงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมาส่งมายังรัฐบาลภายในวันที่ 25 กันยายนนี้