"อยากได้เลขานุการคณะ กมธ.ยกร่างฯ ในแต่ละชุดที่เคยทำงานมาเป็นที่ปรึกษา ผมไม่ได้เชิญ ดร.บวรศักดิ์ แต่ผมเชิญในฐานะท่านเป็นเลขานุการคณะ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ท่านก็บอกผมว่าเดี๋ยวสื่อมวลชนจะว่าได้ ผมเลยมาถามสื่อมวลชนจะว่าท่านหรือไม่ ถ้าพวกคุณรับรองจะไม่ว่าท่าน ผมก็จะได้รับประโยชน์จากท่านบ้าง" นายมีชัย กล่าว
สำหรับการตั้งที่ปรึกษาคณะ กรธ.จำนวน 9 คนนั้น นายมีชัย กล่าวว่า อาจไม่จำเป็นต้องตั้งถึง 9 คนก็ได้ และจะเป็นบุคคลที่เคยและไม่เคยเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญด้วย ทั้งหมดต้องมีการปรึกษากันก่อนว่า กรธ.อยากได้ใครบ้าง
"อยากได้คนที่เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ 2540, 2550 และ 2558 เพื่อจะได้รู้ตื้นลึกหนาบางว่าทำไมถึงคิดและเขียนรัฐธรรมนูญออกมาเป็นอย่างนั้น ซึ่งจะได้ช่วยกันมาต่อยอดและการทำงาน และไม่ต้องเสียเวลากับการค้นหาข้อมูลมากนัก" นายมีชัย กล่าว
ประธาน กรธ. กล่าวว่า สำหรับการทำงานของ กรธ.ในขณะนี้ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาเป็นรายมาตรา เพราะอยู่ในระหว่างการหารือกันในเรื่องหลักการของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 35 ที่ว่าด้วยการกำหนดแนวทางในการร่างรัฐธรรมนูญให้กับ กรธ.รวมไปถึงหลักการ 5 ข้อที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้มาด้วย หลังจากนั้นฝ่ายเลขานุการจะบันทึกข้อคิดเห็นต่างๆ และไปตั้งทีมเพื่อดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราในชั้นเบื้องต้นต่อไป ก่อนส่งมาให้ กรธ.ทั้ง 21 คนพิจารณาต่อไป ซึ่งในขั้นตอนนี้จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมรับฟังการประชุม กรธ.ด้วย
"การร่างรัฐธรรมนูญอย่ามาพึ่งคนแค่ 21 คนเท่านั้น ใครคิดอะไรออกให้ช่วยบอกมาด้วย สื่อมวลชนก็ควรเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเพราะสื่อมวลชนเป็นฝ่ายที่จับตาดูมาตลอด" นายมีชัย กล่าว
สำหรับกรอบเวลาการทำงานของ กรธ.ที่มีค่อนข้างจำกัดนั้น นายมีชัย กล่าวว่า ไม่ได้ใช้คำว่ามั่นใจจะทำได้ทันเวลา แต่ต้องทำ เหมือนกับการกำหนดเวลาส่งตัวเจ้าบ่าว-เจ้าสาวตอนสี่ทุ่มจะเป็นตายยังไงก็ต้องไป ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวบอกชัดเจนแล้วว่าต้องทำงานให้เสร็จภายใน 180 วัน
ประธาน กรธ. กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่า กรธ.จะเห็นชอบกับการให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ(คปป.)หรือไม่ เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว ส้วนการดำเนินการตามมาตรา 35 นั้นคงไปตีกรอบไม่ได้ เราได้เก็บไว้ในใจและสมองตลอดเวลา สิ่งที่เราจะทำต้องคำนึงถึงวัฒนธรรมและประเพณีของคนไทยโดยตลอดในทุกเรื่อง โดยไม่คิดว่าจะไปลอกมาจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเอากลับมาเทียบด้วยว่าคนไทยเป็นอย่างไร