"สถานการณ์โดยรวมของประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ การเมืองและเศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพ นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น ต่างชาติมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมากยิ่งขึ้น"พล.ต.สรรเสริญ ระบุ
ส่วนเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและผิดกฎหมาย ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ยังมีบางกลุ่มไม่เข้าใจและกล่าวโจมตีให้ร้ายรัฐบาลโดยอ้างหลักประชาธิปไตย มุ่งเปิดประเด็นปัญหาผ่านสื่อต่าง ๆ ให้เกิดความขัดแย้ง และสื่อมวลชนบางส่วนก็มักนำไปขยายผลจนเกิดความขัดแย้งมากขึ้นอีก วันนี้เรากำลังแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่งที่หมักหมมมานาน คือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่รัฐบาล และ คสช. เองพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยใช้กฎหมายปกติก็กลับถูกกดดันให้ใช้กฎหมายพิเศษเพื่อกล่าวหาว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต
“นายกฯ เน้นว่าทุกคนมีส่วนกำหนดชะตากรรมของประเทศทั้งสิ้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่มีใครสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้แต่เพียงฝ่ายเดียว แต่การแก้ไขปัญหาให้สำเร็จนั้นต้องเริ่มต้นจากการเคารพกฎหมายและกติกาของบ้านเมือง ใช้กฎหมายเป็นหลัก จะใช้ความรู้สึกหรือความเกลียดชังมาตัดสินกันเองไม่ได้ เพราะความขัดแย้งจะเกิดขึ้นแบบไม่รู้จบ ต่างประเทศก็จะไม่เชื่อมั่น ไม่มาลงทุนค้าขายกับเรา และอยากขอร้องทุกฝ่ายหยุดใช้คำว่าประชาธิปไตยและความยากจนของประชาชนมาโจมตีให้ร้ายกัน เพราะวันนี้ประเทศอยู่ในสถานะไม่ปกติ เรากำลังจะเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว