"พรเพชร"แจงย้าย"จเร"เหตุทำงานล่าช้า-ชะลอตั้งเลขาฯสภาใหม่ หลังมีแรงกระเพื่อมหนัก

ข่าวการเมือง Monday October 19, 2015 17:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในฐานะประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า สาเหตุที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งให้นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ย้ายไปเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีความกังวลต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่สร้างความเสียหาย มีความบกพร่อง และการดำเนินงานล่าช้า ทั้งในเรื่องโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่สัญญาจะครบกำหนดก่อสร้างในเดือน พ.ย.58 แต่ล่าสุดมีความคืบหน้าก่อสร้างเพียง 15-17% เท่านั้น โดยคาดว่าหลังจากนี้จะมีปัญหาทางกฎหมาย ประเด็นการฟ้องร้องต่อไป และการไม่เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนการทุจริตในสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้เป็นข้อยุติเรียบร้อยโดยเร็ว จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบุคลากรเพื่อให้แก้ปัญหาทั้ง 2 เรื่อง

ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ส่วนการแต่งตั้งให้นายนัฑ ผาสุข ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ไปทำหน้าที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแทนในตอนแรกนั้นเป็นข้อเสนอของตนเองที่แจ้งให้กับ คสช.เพราะต้องการหาคนมาทำงานให้ลุล่วง โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการย้ายบุคลากรข้ามหน่วยงาน แต่เมื่อมีปฏิกิริยาที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นห่วงและได้ปรึกษากับตนเอง จึงเห็นว่าควรให้นายนัฑกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมในสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ว่างอยู่นั้นตนเองได้ลงนามตั้งรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่มีอาวุโสสูงสุดรักษาราชการแทนไปก่อน ส่วนบุคคลใดจะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาฯ ถาวรต้องใช้เวลาพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้งโดยใช้กระบวนการพิจารณาตามปกติ

สำหรับรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่จะมารักษาราชการแทน คือ นางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ รองเลขาธิการสภาฯ ที่อาวุโสสูงสุด

ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาล่าช้าว่า ตนเองไม่อยากให้มีการฟ้องร้องใดๆ เกิดขึ้น แต่หากถึงขั้นตอนฟ้องร้อง หรือการทิ้งงาน รอให้ประมูลใหม่จะเกิดความเสียหายอย่างมาก ทั้งงบประมาณ และระยะการปฏิบัติงาน ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องใช้เทคนิค และวิธีการพิเศษที่ต้องดำเนินการให้ได้ แม้จะเป็นงานที่หนัก

อย่างไรก็ตามประเด็นการก่อสร้างที่ล่าช้ามีข้อร้องเรียนมาจาก บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) ว่ามาจากความผิดของเจ้าหน้ารัฐสภาที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ โดยไม่ระบุชื่อชัดเจน เช่น การส่งมอบที่ดินโรงเรียนโยธินบูรณะล่าช้าราว 4 เดือน เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาโอนเงินเข้าบัญชีผิด ซึ่งไม่ใช่โรงเรียนโยธินบูรณะ ทำให้โรงเรียนโยธินบูรณะไมได้รับเงิน เพื่อก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารใหม่ ตนเองจึงต้องตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยแต่งตั้งนางวรารัตน์ อติแพทย์ เลขาธิการวุฒิสภา เป็นประธานกรรมการสอบสวน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ