นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า กรณีมีคำสั่งแต่งตั้งนางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีอาวุโสอันดับ 3 เข้ามาทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่างว่า เนื่องจากนางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีอาวุโสสูงสุดขอถอนตัว เพราะต้องรับผิดชอบกรณีการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จึงได้แต่งตั้งให้นางสายทิพย์เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าว ขณะที่รองเลขาธิการสภาฯ อาวุโสอันดับ 2 มีเรื่องถูกสอบสวนทางวินัยจึงไม่ต้องการให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา เรื่องนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีปัญหาที่ต้องแก้ไขมากมาย และตลอด 1 ปีที่ตนเองเข้ามาทำหน้าที่ประธานรัฐสภาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีความคืบหน้าในการก่อสร้างเพียง 15-16% และไม่เคยพบกับผู้บริหารระดับสูงของ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว แต่เมื่อเดือนก่อนมีหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมเข้ามา ตนเองจึงต้องมีส่วนรับผิดชอบ โดยสัญญาการก่อสร้างจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.นี้ และอาจมีการฟ้องร้องรัฐสภา ซึ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รัฐสภาล้มเหลวในสมัยของตนเอง เพราะไม่ได้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบริษัทฯ
"ผมไม่อยากให้รัฐสภาล้มเหลวในสมัยผม ผมแค่เข้ามาทำหน้าที่ทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่ประสงค์ให้ใครฟ้องร้อง ไม่อยากให้สภายุคผมต้องจ่ายค่าโง่ให้ใคร และผมเองก็ไม่มีทางได้อะไร ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ผมไม่มองว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่สภาที่ไม่ทำตามสัญญา แต่เห็นว่ารีบไปหรือเปล่า เพราะเรายังไม่พร้อมที่จะสร้างบ้าน แล้วจะสร้างทำไม" นายพรเพชร กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนนายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาฯ นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด