พล.ต.วีระชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การพบกันในวันนี้เป็นการมายืนยันความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่แน่นแฟ้น และไทยยังคงเป็นมิตรที่ดีของสหรัฐฯ พร้อมประสานความร่วมมือในทุกด้าน ซึ่งสหรัฐฯไม่ได้มากดดัน เพราะมองว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางแก้ปัญหาของไทย โดยเชื่อในคำพูดในความจริงจังและความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อนำประเทศไปสู่จุดหมายอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้อธิบายถึงสาเหตุของปัญหาที่ผ่านมา แต่สิ่งที่สำคัญคือทูตสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องเชื่อในคำพูดทั้งหมด แต่อยากให้นำกลับไปศึกษา และพูดคุยกับประชาชนในทุกกลุ่มและทุกภาค และวิเคราะห์เองว่าข้อมูลที่ได้รับเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าสหรัฐฯ จะเข้าใจไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชี้แจงการทำงานตามโรดแมพของรัฐบาล โดยได้เล่าให้ทูตสหรัฐฯ ฟังตั้งแต่การแก้ไขปัญหาโดยการใช้กฎอัยการศึก และใช้มาตรา 44 อย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลได้ดำเนินการในเรื่องนิติธรรมของไทย แม้จะมีบางฝ่ายพยายามทำลายความน่าเชื่อถือ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติ แต่ยึดเรื่องของหลักฐานและข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ สหรัฐฯได้คำเสนอแนะให้ไทยเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการเดินหน้าประเทศตามโรดแมพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยและจะนำไปหาวิธีดำเนินการ
ด้านนายกลิน ที เดวีส์ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีสำหรับการต้อนรับ ซึ่งวันนี้สองฝ่ายได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหลายเรื่อง ทั้งความสัมพันธ์ ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสาธารณสุข ขณะที่ภารกิจสำคัญนั้น มีทั้งเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกันโดยเฉพาะการค้าการลงทุน นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนไทยให้มีบทบาทนำในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยเรื่องประชาธิปไตยและโรดแมพ โดยแนวคิดของสหรัฐฯ ต่อประเทศไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยเองก็อยากเห็นประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย และสหรัฐฯ ก็หวังให้ประเทศไทยเดินหน้าตามโรดแมพที่วางไว้