"ไม่ใช่ประธาน สปท.จะไปวางตัวหรือเป็นผู้เลือกเอง แม้จะได้รับมอบอำนาจมา แต่จะไม่ใช้อำนาจไปก้าวก่ายโดยพลการ ปล่อยให้เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการกลั่นกรองเป็นผู้คัดสรร" ร.อ.ทินพันธุ์ กล่าว
ส่วนกระบวนการคัดเลือกจะแล้วเสร็จเข้าที่ประชุมสปท.ใหญ่เมื่อไหร่นั้น ตนเองยังไม่สามารถบอกได้ ขึ้นอยู่กับการทำงานของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ แต่เชื่อว่า การทำงานจะรวดเร็ว ไม่ล่าช้า
ประธาน สปท.กล่าวว่า การทำงานต่อจากนี้ จะเริ่มจากการปฏิรูปตัวเองก่อน เพื่อการทำงานที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพราะ สปท.ไม่ใช่สภาการเมือง แต่เป็นสภาวิชาการ
"การทำงานต่อไปจะต่างจากสภาชุดเดิมๆ หลีกเลี่ยงการเป็นสภาโต้วาที ต้องไม่ใช่สภาที่พูดมากแต่ไร้ผลงาน จะเป็นสภาที่ปรึกษานายกฯ มีเป้าหมายงานคือสานงานการออกกฎหมาย ล้าง กวาดขยะที่หมักหมมมายาวนานให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง" ร.อ.ทินพันธุ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณสภาชุดก่อนที่ร่วมกันคิดวิจัยผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากมายได้สำเร็จ มีประสิทธิภาพ ส่วนตัวจะสานงานต่อไป