คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณรงค์ศักดิ์ หรือ ตุ้ย พลายอร่าม การ์ด นปช. และนายพีรพงษ์ หรือธานินทร์ สินธุสนธิชาติ คนจัดหาอาวุธสงครามให้ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จากกรณีร่วมกันกับพวกยิงระเบิด M79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่ด้านหน้าอาคารชินวัตร 3 เมื่อวันที่ 7 มี.ค.57 แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากกระสุนไปโดนเสาและต้นไม้ประดับของอาคารชินวัตร 3
โดยศาลพิเคราะห์จากคำเบิกความของนายยงยุทธ หรือ ชินจัง บุญดี พยานฝ่ายโจทก์ให้การซัดทอดว่านายณรงค์ศักดิ์ จำเลยที่ 1 เป็นผู้มารับอาวุธปืน M79 จากตนเอง และขับรถไปรับนายพีรพงษ์ จำเลยที่ 2 เพื่อไปก่อเหตุยิงอาคารชินวัตร 3 สอดคล้องกับพยานภาพถ่ายรถยนต์คันที่คนร้ายใช้ และภายในรถมีวัตถุทรงกระบอกลักษณะคล้ายอาวุธปืน M79 ทั้งนี้หลังก่อเหตุนายยงยุทธได้โอนเงินให้กับนายณรงค์ศักดิ์หลายครั้งรวม 3,000 บาท เป็นค่าก่อเหตุ ซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่มีน้ำหนัก
ส่วนกรณีที่นายณรงค์ศักดิ์อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้เซ็นเอกสารรับสารภาพในชั้นสอบสวน พยานหลักฐานของจำเลยไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างพยานของโจทก์
ศาลจึงพิพากษาจำคุกนายณรงค์ศักดิ์และนายพีรพงษ์ตลอดชีวิต แต่จำเลยรับสารภาพมีแหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุกจำเลยคนละ 43 ปี 4 เดือน