"ก่อนหน้านั้นไม่มีหมายจับที่พัวพันกับนายทหาร ผมจึงได้ปฏิเสธ สื่อจะมาว่าผมไม่ได้ และใช้คำพูดแบบนี้ไม่ได้ พูดแบบนี้ก็แย่สิ มาหาว่าผมปฏิเสธ ก็ผมไม่รู้นี่ เพราะตอนนี้เขาเพิ่งออกมา" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ส่วนการออกหมายจับครั้งนี้จะเชื่อมโยงกับนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อก็รู้อยู่แล้ว ไม่รู้จะมาถามทำไม มันก็มีอยู่แค่คดีเดียว แต่ตนเองไม่รู้ว่าจะเชื่อมโยงกับกรณีของการส่อทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ด้วยหรือไม่
"จะเกี่ยวข้องกันอย่างไร ถ้าจะเกี่ยว จะเกี่ยวข้องด้วยเรื่องอะไร ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่สืบสวนต่อไปว่ามีใครเกี่ยวข้องด้วยบ้าง" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงความความคืบหน้าคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงว่า หลังจาก พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือ ผู้การโจ้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ในฐานความผิดตามมาตรา 112 และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายจับ ซึ่งจากคำให้การของผู้ต้องหาซัดทอด พ.อ.คชาชาต มีพฤติการณ์การกระทำผิดเหมือนกับผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง, นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขาคนสนิทหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด อดีตสารวัตรกองบังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี(ปอท.) ที่เสียชีวิตขณะถูกคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีก่อนหน้านี้
ส่วนกระแสข่าวว่า พ.อ.คชาชาต เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วนั้น พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก สตช.กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศของ พ.อ. คชาชาต ส่วนที่มีข่าวว่า พ.อ.คชาชาต เข้าไปหาผลประโยชน์จากการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้นก็ยังไม่ทราบเช่นเดียวกัน ซึ่งรายละเอียดส่วนอื่นๆ ยังไม่ขอเปิดเผยในขณะนี้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวน