รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์รายงานผล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ของกรรมการ 4 ฝ่าย คือ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการ และแพทย์ พร้อมกันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังญาติของหมอหยองเพื่อดำเนินการรับศพและออกใบมรณะบัตรต่อไป
กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารแถลงข่าวกรณีผู้ต้องขังเสียชีวิตขณะถูกคุมขัง โดยลำดับเหตุการณ์ว่าเมื่อวันที่ 5 พ.ย.58 ต่อเนื่องวันที่ 6 พ.ย.58 ผู้ต้องขังมีอาการไข้สูง กระสับกระส่าย และไอ พยาบาลเสนารักษ์ประจำเรือนจำได้จ่ายยาลดไข้ ยาลดอาการไอ แล้วให้นอนพัก ต่อมาวันที่ 7 พ.ย.58 เวลาประมาณ 21.00 น.เจ้าหน้าที่เวรไปตรวจพบว่าผู้ต้องขังมีอาการเรียกไม่รู้สึกตัว หายใจเฮือกยาว จึงแจ้งให้นำส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที
เมื่อไปถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แพทย์เวรได้พยายามช่วยชีวิตตามหลักเกณฑ์และจรรยาบรรณทางวิชาชีพ ทำกระบวนการฟื้นคืนชีพ(Advanced CPR:Cardio Pulmonary Resuscitation) ใช้เวลาดำเนินกระบวนการตั้งแต่แรกพบตัว ดดยใส่ท่อหายใจ ปั้มหัวใจ ให้ยากระตุ้นหัวใจและความดันโลหิต ฯลฯ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวนท้องที่มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
"สาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งชันสูตรโดยสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการตรววจพิสูจน์ศพเรียบร้อยแล้ว เอกสารลงวันที่ 8 พ.ย.58 ปรากฎสาเหตุของการเสียชีวิต สันนิษฐานว่าระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากติดเชื้อในกระแสโลหิต เรือนจำได้แจ้งญาติผู้เสียชีวิตให้มาขอรับศพเพื่อไปดำเนินการตามประพณีต่อไป"แถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์ กรณีผู้ต้องขังเสียชีวิตขณะถูกคุมขัง ระบุ
การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นการเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว เจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายอาญาวิธีพิจารณาความอาญา คือ ต้องแจ้งให้พนักงานสอบสวน แพทย์ พนักงานอัยการ และพนักงานฝ่ายปกครอง รวม 4 ฝ่าย มาชันสูตรพลิกศพ ซึ่งในกรณีนี้ได้แจ้งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ซึ่งเป็นท้องที่ที่พบศพให้เข้ามาดำเนินการ
สำหรับความเป็นไปได้ว่ามีเชื้อใดที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันทีอย่างรวดเร็วนั้น เท่าที่สอบถามแพทย์พบว่า มีเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุทำให้ระบบหายใจล้มเหลวแล้วเสียชีวิตอย่างรวดเร็วได้ เช่น เชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเดินหายใจสายพันธุ์รุนแรง ผู้รับเชื้อจะเกิดอาการอย่างเฉียบพลัน ยากแก่การประเมินหรือรักษาไม่ทันการณ์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่ได้รับสารสเตียรอยด์เพื่อกดภูมิต้านทาน หรือผู้เป็นโรคที่ยังไม่ได้ระบุการตรวจวินิจแย โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอจากการเป็นโรคประจำตัวบางอย่าง หรือภาวะต้านทานบกพร่องจากโรงเฉพาะตัวที่ยังไม่ได้รับการค้นพบ หากได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่รุนแรง
ในกรณีนี้มีความเป็นไปได้ที่ผู้ต้องขังอาจมีภูมิค้านทานอ่อนแอ โดยตรวจพบจากการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เมื่อวันที่ 22 ต.ค.58 ว่า มีภาวะไขมันสะสมในตับสูง ประกอบกับผลการตรวจเลือดในขณะการช่วยฟื้นคืนชีพเมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย.58 พบมีเอนไซม์การทำงานของตับสูง ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดพบว่ามีภาวะเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติเพียง 60,000 คิวบิกมิลลิเมตร์(ค่าปกติตั้งแต่ 140,000-400,000/คิวบิกมิลลิเมตร) สันนิษฐานว่าเมื่อได้รับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือดเข้าไป จึงอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว