ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่ 1 กล่าวว่า แนวทางการอภิปรายจะเป็นไปอย่างอิสระ ไม่ได้เป็นการผูกมัด โดยสมาชิกจะรวบรวมประเด็นทุกประเด็นเป็นข้อเสนอส่งไปยัง กรธ. และหน้าที่อีกประการของ สปท. คือ ร่วมกันจัดทำยกร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งหมายรวมถึงพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการเงินที่ต้องส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)พิจารณา โดยจะมีวิป 2 ชุดที่จะเป็นคนกลางในการประสานงานคือ วิปร่วมระหว่าง คณะรัฐมนตรี (ครม.) สปท.และ สนช. และวิปร่วมระหว่าง สนช. กรธ.และสปท. ซึ่งในการอภิปรายแสดงความเห็นจะต้องคำนึงถึงกฎหมายในการปฏิรูปประเทศและสิ่งที่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งความคิดเห็นของสมาชิกทั้งหมดจะมีการรวบรวมและส่งไปยังกรธ.ต่อไป
ด้านนายกษิต ภิรมย์ สมาชิก สปท. กล่าวว่า ในฐานะเป็นตัวแทนพรรคการเมืองที่มีสมาชิกอยู่ใน สปท.กว่า 10 คน ได้ขอเสนอให้ประธานสปท.ประสานไปยังรัฐบาลอนุญาตให้พรรคการเมืองประชุมกันในสถานที่ของตนเอง เพื่อหารือเรื่องการปฏิรูป
ส่วนพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิก สปท. เสนอว่า ในการอภิปรายข้อคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญนั้นอยากให้สมาชิกที่มีความสนใจการปฏิรูปด้านใดให้พูดเรื่องนั้นๆ ว่าควรบรรจุเรื่องใดในรัฐธรรมนูญบ้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการร่างรัฐธรรมนูญมากกว่า