นายมีชัย กล่าวว่า ช่วงปลายสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าจะพิจารณาโครงสร้างฝ่ายบริหาร เพราะต้องรอคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาโครงสร้างฝ่ายบริหารสรุปรายงานส่งมาให้ที่ประชุมก่อน
ด้านนายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ. แถลงว่า วันนี้ได้พิจารณาในหมวดองค์กรอิสระ ในส่วนของ กกต.โดยยังคงให้อำนาจสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่หรือใบเหลือง เป็นอำนาจของ กกต. กรณีที่มีหลักฐานอันควรเชื่อว่ามีการทุจริต ส่วนอำนาจการเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งบุคคล(ใบแดง) ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะต้องผ่านศาลฎีกาวินิจฉัยก่อนหรือไม่ เนื่องจากกรรมการยังมีความเห็นแย้ง
นอกจากนี้ กรธ.ยังได้เพิ่มอำนาจให้ กกต.เพียงรายเดียวสามารถสั่งปิดหน่วยเลือกตั้ง หรืองดลงคะแนนได้ทันที หากพบเห็นการทุจริตซึ่งหน้า จากเดิมที่ต้องรอมติจากที่ประชุมใหญ่ กกต. ขณะเดียวกัน กรธ.ยังให้อำนาจ กกต.สามารถดำเนินการไต่สวนและสั่งการให้มีการออกเสียงประชามติใหม่ได้ กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่ากระบวนการออกเสียงประชามติมีการทุจริต
โฆษก กรธ.กล่าวว่า สำหรับคณะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระนั้น ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อยุติ แต่มีแนวโน้มว่า อาจจะกำหนดโครงสร้างคณะกรรมการสรรหาให้มาจากตัวแทนของแต่ละองค์กร ซึ่งอาจจะไม่ตายตัวว่า คณะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระแต่ละชุดจะเป็นคนเดียวกัน ขณะที่การเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ยังมีความกังวลว่า หากจำนวน ส.ส.ส่วนเกินกว่าจำนวนที่กำหนดจะทำอย่างไร เบื้องต้นทาง กรธ.ได้พิจารณาแล้วมีแนวโน้มว่าจะใช้การคำนวณไม่ซับซ้อน เปรียบเทียบหาในลักษณะบัญญัติไตรยางค์ โดยคิดจากฐานของ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำหนดให้มี 150 คน ยืนยันว่า กรธ.ต้องการความเป็นธรรมให้กับทุกพรรคการเมือง ไม่ใช่ช่วยเหลือพรรคการเมืองใด ส่วนกรณีที่บางพรรคการเมืองมีศักยภาพส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตที่ไม่ครบทุกเขตนั้น กรธ.จะไม่เขียนบทบังคับให้ดำเนินการใดๆ เพราะต้องการให้พรรคการเมืองต่างๆ มีการพัฒนาภายในพรรคตามศักยภาพที่พึงมี