สำหรับการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ที่ล่าช้าจนต้องมีการต่อสัญญาขยายเวลาการก่อสร้างออกไปนั้น นายพรเพชร กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด และไม่มีใครมาปรึกษาในเรื่องนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
"ไม่สามารถพูดอะไรได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นชี้นำ ได้แต่มอบนโยบายให้เลขาธิการสภาฯ ว่าต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ส่วนบทลงโทษปรากฎในเอกสารรายงานลับนั้น ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้" ประธาน สนช.กล่าว
ส่วนที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้หรือไม่นั้น นายพรเพชร กล่าวว่า เป็นการรับผิดทางวินัย โดยการละเว้นหน้าที่บางประการ ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างรัฐสภาก็ได้ ส่วนการต่อสัญญาก่อสร้างนั้นไม่ทราบ เป็นเรื่องที่ต้องตกลงกัน โดยบริษัทที่ปรึกษาที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจ้าง จะต้องเป็นผู้คำนวณว่าต้องต่อสัญญาเพิ่มอีกกี่วัน ส่วนการต่อสัญญาก็เป็นเรื่องที่ต้องตกลงกัน
ประธาน สนช.กล่าววว่า การเรียกร้องค่าเสียหายไม่ใช่ประเด็น เพราะเมื่อ 2 ฝ่ายยินยอมให้มีการต่อสัญญาก็คงไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ อย่างไรก็ดี หวังให้การก่อสร้างรัฐสภาเสร็จให้ทันในสมัยที่ตนยังทำงานอยู่ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่กระบวนการเจรจา ถ้าเจรจาไม่สำเร็จแล้วจะมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ตนก็มีสิ่งที่จะต้องดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ
ด้านนางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล ว่าที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามร่วมกับ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการบมจ. ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) เพื่อขยายเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ให้กับผู้รับจ้างออกไปอีก 387 วัน จากเดิมที่จะครบกำหนดสัญญาว่าจ้าง ในวันที่ 24 พ.ย. เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ประกอบกับปัจจุบันโรงเรียนโยธินบูรณะ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ดุสิต บ้านพักชุมชนทอผ้า และหน่วยงานอื่นๆ ยังไม่สามารถโยกย้ายไปได้ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับระเบียบของทางราชการ ขั้นตอนและงบประมาณจำนวนมาก ทำให้การส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ประกอบกับในระหว่างก่อสร้างผู้ว่าจ้างจัดหาที่พักดินในรัศมี 10 กิโลเมตรให้กับผู้รับจ้างไม่เพียงพอ ทำให้แผนงานก่อสร้างต้องล่าช้า
นายโชติจุฑา อาจสอน ที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แล้วเสร็จไปกว่า 15% ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการส่งมอบพื้นที่ไม่เป็นไปตามกำหนด ซึ่งล่าสุด ทางโรงเรียนโยธินบูรณะแจ้งว่าจะย้ายออกได้ประมาณต้นปี 59 ดังนั้น กลางปี 59 น่าจะรื้อถอนอาคารได้ ส่วนปัญหาไม่มีที่ทิ้งดิน นั้นก็ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้วคาดว่าไม่เกิน 20 วัน น่าจะขนดินออกได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันยอมรับว่า อาจต้องขยายเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ให้กับผู้รับจ้างอีก 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้ พร้อมคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ปี 2561