นายกฯ นำคณะบินไปร่วมประชุม COP 21-CMP 11 ที่ฝรั่งเศส 29 พ.ย.-2 ธ.ค.58

ข่าวการเมือง Saturday November 28, 2015 19:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับสูงของประมุขรัฐและหัวหน้ารัฐบาลในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(United Nations Framework Convention on Climate Change–UNFCCC) สมัยที่ 21(COP 21) และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 11(CMP 11) ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-วันที่ 2 ธ.ค.58 ณ ศูนย์ประชุม Parc des Expositions du Bourget กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG930 ไปยังสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในคืนนี้เวลา 00.05 น.และเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 2 ธ.ค.58 เวลา 06.25 น.

สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้รัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ อยู่ระหว่างการเจรจาจัดทำร่างความตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปี ค.ศ.2015 ให้แล้วเสร็จภายในช่วงการประชุม เพื่อให้ความตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ.2020 ดังนั้นสาธารณรัฐฝรั่งเศสในฐานะเจ้าภาพการประชุมจึงได้จัดการประชุมระดับสูงของประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาลขึ้น เพื่อสร้างพลวัตในการเจรจาความตกลงฯ

การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นโอกาสให้ผู้นำประเทศต่างๆ แสดงการสนับสนุนทางการเมืองในระดับสูงสุดต่อการเจรจาจัดทำความตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จในระหว่างการประชุม COP 21/CMP 11 รวมถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยคาดว่าจะมีผู้นำเข้าร่วมการประชุมระดับสูงของประมุขรัฐและหัวหน้ารัฐบาลจาก 139 ประเทศ แม้จะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.58 แต่ผู้นำส่วนใหญ่ อาทิ สมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 แห่งราชอาณาจักรโมร็อกโก, เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 พระประมุขแห่งราชรัฐโมนาโก, ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, ประธานาธิบดีจีน, ประธานาธิบดีรัสเซีย, นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร, นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, นายกรัฐมนตรีแคนาดา และนายกรัฐมนตรีอินเดีย ยังคงยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุม ส่วนประเทศสมาชิกอาเซียนนั้นมีประมุขรัฐและหัวหน้ารัฐบาลที่ตอบรับเข้าร่วมการประชุม ได้แก่ พระบาทสมเด็จ-พระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์กัมพูชา, ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์, ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรีเวียดนาม

โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับฝรั่งเศสต่อเหตุความรุนแรงในกรุงปารีส แสดงเจตนารมณ์อันแนวแน่ของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเสนอว่าในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ละประเทศควรมีแนวทางในการดำเนินการพัฒนาใหม่ที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง ไทยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างความสมดุลระหว่างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป็นแนวทาง พร้อมเน้นย้ำว่า ประเทศต่างๆ จะไม่สามารถบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืนได้หากยังคงต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงทางอาหาร ความพยายามในการขจัดความยากจน และการบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยไทยได้กำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ.2030 ที่ร้อยละ 20 ถึง 25 รวมถึงบทบาทของไทยในฐานะประธานกลุ่ม 77 และความพร้อมที่จะเป็น “สะพานเชื่อม" ระหว่างประเทศต่างๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ