พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบถึงพฤติกรรมของแกนนำกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่พยายามปลุกปั่นยุยงให้เกิดความไม่สงบ ด้วยการเคลื่อนไหวไปยังอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยอ้างว่าเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสในการก่อสร้างอุทยานฯ ซึ่งความเป็นจริงการตรวจสอบต้องดำเนินการด้วยเอกสารหลักฐาน และไม่ใช่หน้าที่ของกลุ่มการเมืองที่จะมาตรวจสอบ แสดงให้เห็นถึงความพยายามทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงจึงต้องพูดคุยและขอให้หยุดเคลื่อนไหว เพราะอาจนำไปสู่ความไม่สงบและอาจมีการเผชิญหน้ากับกลุ่มตรงข้ามได้ และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งเหมือนในอดีต
"พฤติกรรมแกนนำทั้ง 2 คน คงพยายามทำให้เกิดกระแสคล้ายๆยุยงให้เกิดความสับสนขึ้น และการลงพื้นที่ของทางแกนนำคงไม่ได้ลงไปเพียงลำพังคงมีผู้ติดตามไปด้วย ซึ่งจากการติดตามข่าวในพื้นที่มีประชาชนจากจังหวัดราชบุรีและประจวบคีรีขันธ์ส่วนหนึ่งเกิดความรู้สึกขัดแย้งในมุมมองแนวความคิดกับแกนนำทั้ง 2 คนนี้ ผมคาดหมายว่าคงมีการจัดเตรียมและอาจเกิดการเผชิญหน้ากันในพื้นที่อุทยานราชภักดิ์ เพราะฉะนั้นหน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ จึงมีความจำเป็นเชิญแกนนำทั้ง 2 คนไปพูดคุยทำความเข้าใจเมื่อวานนี้ และขอร้องให้หยุดพฤติกรรมลักษณะอย่างนี้ เพราะว่าไม่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติแต่อย่างใดเลย" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะให้หน่วยงานต่างๆ นอกเหนือจากการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหม สามารถเข้ามาตรวจสอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ได้ และนายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณมายังฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจงกับประชาชนว่าที่ผ่านมาประเทศมีความขัดแย้งมามากพอแล้ว และใช้ระยะเวลาในการก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ ที่เริ่มดีขึ้น ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีความพยายามในโลกโซเชียลมีเดียเชื่อมโยงกรณีทุจริตมายังคนในรัฐบาล จึงอยากฝากให้ประชาชนพิจารณาข้อมูล โดยใช้ดุลยพินิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่ามาจากกลุ่มใดและหากตรวจสอบพบก็จะมีการดำเนินคดีความต่อไป