พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า ที่ประชุมการเสนอให้ตัดมาตราดังกล่าวออกไป เพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยให้เปลี่ยนเป็นต่อไปนี้ให้เป็นการเลือก ผบ.ตร.แทน โดยเลือกจาก รอง ผบ.ตร. 12 คน ให้เหลือ 3 คน แล้วส่งรายชื่อทั้ง 3 คนไปให้ตำรวจทั่วประเทศพิจารณา พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ก่อนให้ตำรวจทั่วประเทศเข้าคูหากาว่าจะเลือกใคร แล้วให้แต่ละภาคส่งคะแนนให้ส่วนกลางก่อนประกาศว่าใครจะได้เป็น ผบ.ตร.โดยเรื่องดังกล่าวทางสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ได้ส่งแนวทางการการปฏิรูปดังกล่าวไปยัง ครม.แล้ว ซึ่ง ครม.ก็เห็นชอบ โดยเฉพาะในประเด็นไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงกิจการตำรวจ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้ปฏิรูปงานสอบสวนเพื่อให้เกิดปฏิรูปแก่ประชาชนมากที่สุด พร้อมให้ปฏิรูปการแต่งตั้งโยกย้ายโดยยึดระบบคุณธรรม ป้องกันการซื้อขายตำแหน่ง เพราะหากยังมีการซื้อตำแหน่งก็ยังมีการถอนทุนกันอยู่ต่อไป รวมทั้งการสร้างความมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในกิจการตำรวจ การถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช้ภารกิจหลักของตำรวจไปให้หน่วยงานอื่นดูแล และการปฏิรูปงานนิติวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังเสนอให้มีการปฏิรูปองค์กรทนายความ โดยเฉพาะทนายความอาสา และทนายขอแรง ให้มีคุณภาพและคุณสมบัติที่เหมาะสม มีการอบรบ วัด และประเมินผล รวมทั้งปรับปรุงค่าตอบแทนของทนายความให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันยังเสนอให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวกับผู้ต้องหาที่ปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อป้องกันการหลบหนีด้วย